ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2567 ว่า ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 58,128 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 189,870 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินการ เพิ่มขึ้น 6.71% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 135,695 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 71.47% ของยอดทั้งหมด มีกำไรสุทธิ1,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 130.87% ทั้งนี้ สินชื่อคงค้างและภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 44,744 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่ม CLMV และ New Frontiers 39,317 ล้านบาท
นอกจากนี้ ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน (ESG) 75,810 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39.93% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด โดย EXIM BANK พัฒนา เครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) และนวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของภาคการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ให้ตอบสนองกติกาการค้าโลกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรตลอด Supply Chain เช่น สินเชื่อ EXIM Green Goal เพื่อผู้ประกอบการทุกขนาดที่ต้องการขยายหรือปรับปรุงกิจการสู่อุตสาหกรรมที่คำนึงถึง ESG สินเชื่อ EXIM Green Start สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สินเชื่อประเภทวงเงินกู้ระยะยาวในลักษณะ Sustainability Linked Loan ที่สนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเปิดตัวบริการวาณิชธนกิจ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสนับสนุนผู้นำด้านการลงทุนสีเขียว (Green Catalyst) ลงทุนด้านพลังงานสะอาด ผ่านการค้ำประกันตราสารหนี้ (Bond Guarantee)
ขณะเดียวกันในด้านสังคม EXIM BANK ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ที่ประสงค์ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (มาตรการ Pre-emptive) พร้อมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ด้วย 3 แพ็กเกจ เพื่อสร้าง“ชีวิตดี มีความสุข ดีต่อใจ” ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ในกลุ่มเปราะบางที่มีหนี้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้สามารถ “ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว”ตามโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการ “จ่ายตรงคงทรัพย์” ด้วยภาระดอกเบี้ยที่ลดลง และ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความมั่นคงในภูมิภาคต่างๆ EXIM BANK เร่งเสริมสร้างความมั่นใจและภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยผ่านบริการประกันการส่งออกและการลงทุน โดย ณ สิ้นปี 2567 ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกันเท่ากับ 193,536 ล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 7.79% จากปีก่อน
ดร.รักษ์ กล่าวอีกว่า ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีจำนวนลูกค้า 5,303 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs ประมาณ 80% ซึ่ง EXIM BANKให้การสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ผ่านการบ่มเพาะให้ความรู้ จับคู่ธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK ได้ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสะสมกว่า 22,000 รายให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก รวมทั้งสามารถปรับตัวรับมือกับมาตรฐานการค้าโลกและกฎระเบียบต่างๆ ที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นได้
ขณะที่ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี EXIM BANK ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดย ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 6,344 ล้านบาท และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 17,253 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 271.97% เพิ่มเกราะป้องกันความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบต่อการค้า ปี 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี