กขค.จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการแข่งขันทางการค้ากับส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน

      ผศ. ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (เลขาธิการ กขค.) กล่าวถึงการทำความตกลงและความร่วมมือกับองค์กรหรือหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศว่า ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือในกิจกรรมการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และประสบการณ์ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนานโยบายและการบังคับใช้กฎหมาย
      การแข่งขันทางการค้า ผ่านการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ/บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการแข่งขันทางการค้ากับส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในประเทศหลายแห่ง เช่น กรมการค้าภายใน สสว. สำนักงาน กสทช. ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เป็นต้น

     อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ สำนักงาน กขค. จะเดินหน้าผลักดันความร่วมมือในการกำกับดูแล
การแข่งขันทางการค้า ผ่านการจัดทำ MOU กับองค์กรหรือหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
และยกระดับการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าสู่มาตรฐานสากล โดยมีแผนที่จะลงนาม MOU กับองค์กรกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันทางธุรกิจของออสเตรเลีย เพราะการลงทุนและการส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ที่ทำสถิติมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงสุดถึง 30,800 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย กอปรกับนักธุรกิจ-นักลงทุนชาวออสเตรเลียได้เล็งเห็นการเติบโตและให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุน สำรวจโอกาสทางการค้าที่หลากหลาย และลดอุปสรรคทางการค้าโดยภาคธุรกิจฟินเทค ธุรกิจดิจิทัล เศรษฐกิจ Bio-Circular-Green รวมทั้งการผลิตขั้นสูง เป็นธุรกิจที่ออสเตรเลียให้ความสนใจ

     สำหรับฟิลิปปินส์ก็มีการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กําหนดให้เป็นวาระหลักของประเทศ ตอบโจทย์การส่งออกข้าวศักยภาพของไทยไปตลาดนี้ โดยในปีที่ผ่านมา (เดือนมกราคม - กันยายน) ไทยส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์มูลค่า 219.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 336.36 จากช่วงเดียวกัน

      อย่างไรก็ตาม เดือนในช่วงเวลาดังกล่าวยังพบว่า นอกจากข้าวแล้วยังมีการส่งออกสินค้าของไทยไปฟิลิปปินส์บางรายการที่สามารถขยายตัวได้ดี ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.08) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.36) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.16) นมและผลิตภัณฑ์นม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.82) มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เพิ่มขึ้นร้อยละ 112.24) ดังนั้น การขยายความร่วมมือและการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างประเทศ จะช่วยดึงดูดการลงทุนต่างชาติเข้ามายังอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจในการลงทุนและส่งออกสินค้า ที่จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ เลขาธิการ กขค. กล่าว -032