ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2568 2567 พบว่าสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,178.26 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ซื้อสุทธิ 1,476.89 ล้านบาทนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 11,334.28 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 11,035.65 ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวช่วงที่ผ่าน ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนตลาด ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศช่วงแรกเผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวโมเดล AI ของบริษัทจีนซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า รวมถึงแรงขายหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่และหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยาน ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นสั้นๆ ในเวลาต่อมาตามแรงซื้อของต่างชาติก่อนจะร่วงลงตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา ประกอบกับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เป็นไปตามตลาดคาด โดยเฟดมีมติคงดอกเบี้ยพร้อมส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย

ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงลึกต่อเนื่องช่วงปลายสัปดาห์สวนทางภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งที่ระดับ 1,310.72 จุด จากแรงขายหุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่ง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อซื้อกิจการคืน

แนวโน้มสัปดาห์นี้ (3-7 กุมภาพันธ์ 2568) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย คาดแนวรับที่ 1,300 และ 1,275 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,330 และ 1,345 จุด ตามลำดับ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคม 2568 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนมกราคมของสหรัฐฯ การประชุม BOE ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคมของยูโรโซน