นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าในช่วงการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) ระหว่างวันที่ 21 – 24มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ตนได้พบหารือกับ นายอับดุลลา อาเดล ฟาครอ รมว.อุตสาหกรรมและพาณิชย์บาห์เรน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้าเชิงรุกให้ไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งผลักดันการจัดทำ FTA ระหว่างไทยและบาห์เรน
บาห์เรนเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับไทย และมีส่วนช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกับกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวอาหรับ โดยฝ่ายบาห์เรนพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุม Joint Steering Committee ด้านความมั่นคงทางอาหาร การค้า และการลงทุนในสินค้าเกษตร และอาหารฮาลาลกับไทย ซึ่งไทยยินดีที่จะสนับสนุนด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลให้กับบาห์เรน โดยการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร ให้แก่บาห์เรน พร้อมเป็นแหล่งผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายและเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับบาห์เรน
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทยกับบาห์เรน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ และเปิดโอกาสให้สินค้าและบริการไทยสามารถเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือกับเจ้าหน้าที่ของบาห์เรน เพื่อจัดทำแผนการทำงานร่วมกันต่อไป โดยการจัดทำ FTA ให้สำเร็จจะเป็นแต้มต่อการค้าการลงทุนในอนาคตของทั้งสองประเทศต่อไป
นายพิชัยกล่าวว่า ในช่วงการประชุมที่ดาวอส ยังมีโอกาสพบปะหารือกับรมต.การค้าและนักธุรกิจจากหลายประเทศ รวมถึงได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในวงต่างๆ ตนได้เน้นย้ำว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลนายกฯแพทองธาร เรากำลังเข้าสู่ยุคทอง นโยบายต่างๆ กำลังดำเนินไปอย่างถูกทิศทาง เศรษฐกิจไทยของเรากำลังไปได้ดีดูได้จากตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567มีมูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ10 ปี และการส่งออกปี 2567 ก็ขยายตัวถึง 5.4%มูลค่ากว่า 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กระทรวงพาณิชย์คาดแนวโน้มส่งออกปี’68 จะขยายตัวได้ที่ 2-3% และกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมจะเป็นหน่วยที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้เกิดโอกาสทางการค้า การลงทุน ขณะเดียวกันก็จะใช้โอกาสนี้ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยของไทยให้ขายสินค้าในต่างประเทศได้มากขึ้นเรื่อยๆ
บาห์เรนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 59 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 9 ในตะวันออกกลาง การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 542.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 179.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทย 363.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะเศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช เคมีภัณฑ์ และสัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี