นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ PRI เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญและตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง พรีโม ฯจึงเดินหน้ายกระดับการใช้ชีวิตตามแผน Elevate Your Living Experience ขับเคลื่อนธุรกิจแบบ One Stop Services ให้ความสำคัญของ โซลูชันต่างๆ ที่จะเข้ามาพัฒนางานบริการด้านอสังหาฯของพรีโมฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยที่ผ่านมา พรีโมฯ ได้ผลักดันด้านเทคโนโลยีดิจิทัล มาเป็นกลยุทธ์หลักในการยกระดับการให้บริการด้วยการพัฒนานวัตกรรมและการเข้าถึงของข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Primo Plus โฉมใหม ให้มีฟังก์ชันและประสิทธิภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการผู้มาติดต่อภายในโครงการ (Visitor Management System) เป็นระบบแบบครบวงจร มีทั้ง Hardware, Software พร้อมให้บริการแล้วในวันนี้คือ “GateGo” แพลตฟอร์มล้ำสมัยที่เชื่อมโยงความสะดวกสบาย และความปลอดภัยไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ โซลูชัน“GateGo” เป็นระบบ จดจำ และอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ และทำการเปิดประตู หรือยกไม้กันขึ้น อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านในคอนโดมิเนียม หรือหมู่บ้านจัดสรร เกิดความสะดวกสบายในการเข้าออกโครงการ ลดการจราจรแออัดตรงทางเข้า-ออก และมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยโซลูชัน GateGo จะระบุตำแหน่งทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ ตามด้วยการส่งต่อไปยังโปรแกรมที่ถูกติดตั้งเอาไว้เพื่อวิเคราะห์ ประเมิน และถอดข้อมูลด้วยระบบ ทำให้มีความแม่นยำและรวดเร็ว
สำหรับโซลูชัน “GateGo” จาก Livtech Lab ปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้แล้วว่า 10 โครงการ และอยู่ในระหว่างติดตั้ง ทดสอบระบบอีก 10 โครงการ วางแผนขยายไปสู่โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอีกจำนวนมากใน Segment ระดับพรีเมี่ยม และลักชัวรี่ โดยตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 100% ในปี 2568 นี้
“การพัฒนา GateGo ในครั้งนี้ จะกลายเป็น Game Changer ตัวแปรสำคัญในการสร้างความแตกต่าง และยกระดับงานบริการ โดยมองว่า LivTech Lab ที่เข้ามาพัฒนาโซลูชันต่างๆ ให้แก่ พรีโม จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงบริการต่างๆให้เป็นอีโคซิสเท็ม ช่วยให้ พรีโม ก้าวสู่การเป็น Happy Smart Living ที่มีบริการครบวงจร ตอบโจทย์การสร้างความสุขให้ผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต” นายสุรินทร์ กล่าว
นายสิทธิชัย สิริขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลิฟเทค แล็บ จํากัด (LivTech Lab) กล่าวว่า การร่วมพัฒนาโซลูชันกับทางบริษัทพรีโมฯ ตั้งแต่ แอปพลิเคชัน Primo Plus โฉมใหม่ ตลอดจน โซลูชัน GateGo ได้นำประสบการณ์ด้านการบริการ Digital Solution ให้กับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจรีเทลขนาดใหญ่ มาร่วมพัฒนาโซลูชันต่างๆให้กลายเป็น Happy Smart Living ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัย
สำหรับ “GateGo “ใช้ระบบกล้อง Ai ที่มีประสิทธิภาพ จดจำ และอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ เพื่อทำการเปิดประตู หรือยกไม้กั้นขึ้นนั้น จะมีการทำงานร่วมระหว่างกล้องวงจรปิดกับไม้กั้นทางเข้า-ออก เมื่อระบบของกล้องทำการวิเคราะห์ ประเมิน ถอดข้อมูลออกมาเสร็จครบถ้วนแล้ว ไม้กั้นจะถูกยกขึ้นทันทีภายในเวลาไม่เกิน 3-5 วินาที อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
นอกจากนี้ GateGo ถูกพัฒนาขึ้นตามแนวคิด Primo, Happy “Smart Living” Maker ให้ความสุขในการใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย…เลือกให้พรีโมดูแล ได้นำ Data Solution Hub หรือระบบข้อมูลที่ได้รับจากการอ่านป้ายทะเบียนรถสามารถนำไปใช้งานด้านอื่น ๆ นอกจากความสะดวกสบายที่ได้รับจากโซลูชันแล้ว ข้อมูลต่างๆ จะถูกสำรองไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ใช้เป็นสถิติบ่งบอกช่วงเวลาที่รถเข้า-ออกเยอะ เพื่อเพิ่มพนักงานประจำกะให้มากขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามนอกจากเร่งขยาย” GateGo “ให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้แล้ว ในปีนี้บริษัทพรีโมฯยังมีแผนพัฒนาบริการระบบจัดการด้าน Property Management ให้เสร็จภายในไตรมาส 3/2568 และจะทำการทดสอบระบบในไตรมาส 4/2568 พร้อมใช้งานต้นปี 2569 โดยระบบดังกล่าวจะมาซัพพอร์ตการบริหารงานของนิติบุคคลโดยเฉพาะช่วยลดค่าใช้จ่ายของนิติบุคคล ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้ Livtech และเสริมงานด้านบริการของบริษัทพรีโมฯ ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี