นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยของปี 2567 (มกราคม – ธันวาคม) อยู่ที่ 155.49 ล้านลิตรต่อ วัน เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยของปี 2567 ที่ 2.6-2.7% จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการเพิ่มขึ้น 2.2% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 18.7% และการใช้ LPG เพิ่มขึ้น 3.7% ขณะที่กลุ่มเบนซินลดลง 0.05% การใช้น้ำมันเตาลดลง 6.8% และ NGV ลดลง 16.5%

สำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดในเดือนมกราคม–ธันวาคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีดังนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.65 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 0.05% ประกอบด้วยการใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.42 ล้านลิตรต่อวัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.41 ล้านลิตรต่อวัน และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.10 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.37 ล้านลิตรต่อวัน จะเห็นได้ว่าในปี 2567 การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวลงโดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (BEV HEV และ PHEV) มีสัดส่วน 5.5%ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน รวมถึงการใช้งานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีการขยายตัวของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องคิดเป็น 11% เทียบกับปีก่อน

ขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 66.76 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.2% ประกอบด้วยดีเซลหมุนเร็วธรรมดา เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66.61 ล้านลิตรต่อวัน ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้า ประกอบกับนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน ขณะที่ดีเซลหมุนเร็วบี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.15 ล้านลิตรต่อวัน สำหรับดีเซลพื้นฐาน ลดลงมาอยู่ที่ 2.00 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากในปีก่อนมีการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 68.76 ล้านลิตรต่อวัน

ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 16.02 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.7% มีปัจจัย มาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคท่องเที่ยวทำให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจำนวน 35.5 ล้านคน ขยายตัว 26.27% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ ททท. ประกอบกับการขยายตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทยขยายตัว 6.85 % ผ่านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมไปถึงการขยายตัวของบริการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยเช่นกัน

ด้านการใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.26 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.7% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทุกรายสาขา ประกอบด้วยการใช้ในภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.13 ล้านกก./วัน ภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.80 ล้านกก.ต่อวัน ภาคขนส่ง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.33 ล้านกก./วัน จากการขยายตัวของกลุ่มรถแท็กซี่เป็นสำคัญ และภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.00 ล้านกก.ต่อวัน

ส่วนการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.77 ล้านกก.ต่อวัน ลดลง 16.5% โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสม และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวลง ทั้งนี้ ปตท. ยังคงช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ถือบัตรสิทธิประโยชน์ ปัจจุบันดำเนินการอยู่ในระยะที่ 2 (1 ก.ค. 2567 – 31 ธ.ค. 2568)

นายสราวุธ  กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,024,096 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.9% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 92,058 ล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 971,062 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.9% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 88,339 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 53,033 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 25.7% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 3,718 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 186,035 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.5% เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซินน้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,818 ล้านบาทต่อเดือน

 -030