ผศ. ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (เลขาธิการ กขค.) เปิดเผยภายหลังการลงนามในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์กรกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์และสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568ณ เมืองเกซอน ประเทศฟิลิปปินส์ว่า นายไมตรี สุเทพากุล ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า (ประธาน กขค.)เป็นผู้นำคณะสำนักงาน กขค. ในการลงนาม MOU ดังกล่าว โดยมี His Excellency Mr. Michael Aguinaldo, Chairperson of The Philippine Competition Commission พร้อมด้วยสมาชิก และ Mr. Kenneth Tanate, Executive Director of The Philippine Competition Commission เป็นผู้นำคณะอีกฝ่าย ทั้งนี้ การลงนาม MOU ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สำนักงาน กขค. ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญต่อการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนากฎหมายการแข่งขันทางการค้าของไทยให้มีความเป็นสากล

นายไมตรี กล่าวว่า ความสำคัญของการแข่งขันทางการค้า ที่ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิต ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่เป็นธรรมไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มของพฤติกรรมที่ทำลายการแข่งขันในตลาด เช่น การฮั้วราคาและการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม เป็นต้น จึงเป็นเหตุผลว่าทําไมหลาย ๆ ประเทศจึงต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้า ในการบังคับใช้กฎหมายและเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีการเชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจแล้ว การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศย่อมทำให้เกิดความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจของประเทศ และนับเป็นก้าวที่สำคัญตามกรอบความตกลงด้านการแข่งขันทางการค้าภายใต้การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

อย่างไรก็ตามภายใต้ MOU ฉบับนี้ ทั้งสองหน่วยงานได้กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงานเพื่อดำเนินกิจกรรมการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน ความร่วมมือเกี่ยวกับกิจกรรมต่อต้านการแข่งขันที่อาจจำกัดการแข่งขัน หรืออาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของอีกประเทศ รวมทั้งการทำงานร่วมกันด้านวิชาการเกี่ยวกับการเสริมสร้างนโยบายการแข่งขันของแต่ละประเทศ และการแลกเปลี่ยนหรือการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการฝึกอบรมด้านการแข่งขันทางการค้า โดยเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศ และคำนึงถึงผลประโยชน์สำคัญและทรัพยากร
ที่มีอยู่อย่างเหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน

ทั้งนี้ เลขาธิการ กขค. กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำถึงรากฐานอันแข็งแกร่งที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือด้านนโยบายและกฎหมายการแข่งขันทางการค้าให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของ MOU ระหว่างสองหน่วยงานต่อไป 

- 030