นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการจับสัญญาณพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชน ตั้งแต่วันลอยกระทง วันปีใหม่ วันตรุษจีน เรื่อยมาจนถึงวันมาฆบูชา และวันวาเลนไทน์ พบว่าเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัวแบบอ่อน ๆ โดยประชาชนยังมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย เนื่องจากรายได้ยังไม่กระจายตัวอย่างทั่วถึง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 2 เฟสที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้อย่างมั่นคงในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ฝั่งผู้ประกอบการมีมุมมองเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยมองว่ารายได้จากเทศกาลต่าง ๆ ที่ผ่านมาเป็นสัญญาณของการฟื้นตัว
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ปีนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดรวมประมาณ 5,200 ล้านบาท โดยในวันมาฆบูชาคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.81% จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 4 ปี แต่ยังไม่สูงเท่าช่วงวันตรุษจีนที่ขยายตัวถึง 4.5% เนื่องจากวันมาฆบูชาปีนี้ตรงกับวันธรรมดาและไม่ได้เป็นวันหยุดต่อเนื่องเหมือนปีก่อน ทำให้ประชาชนยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง โดยเมื่อย้อนกลับไปปี 2560 การจับจ่ายใช้สอยในวันมาฆบูชาเคยทำสถิติสูงสุดที่ 3,000 ล้านบาท
สำหรับวันวาเลนไทน์ปีนี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ คาดว่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยมีเม็ดเงินสะพัดราว 2,699.65 ล้านบาท หรือเกือบ 2,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อน และเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2563 ทั้งนี้ คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยในวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์รวมกันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.25-0.45%
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี