นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-DrivenOrganization) โดยวางกลยุทธ์หลักในการขยายความเป็นผู้นำในด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve ให้กับองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนจากการต่อยอดธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในไทยและต่างประเทศ ผ่านแผนกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจ ดังนี้
ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ในปี 2567 บริษัทฯ มีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำรวมอยู่ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นการเติบโต 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำในประเทศทั้งสิ้น 128 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 6% ขณะที่ปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำในเวียดนาม อยู่ที่ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า13% สำหรับในปี 2568 ยังคงมุ่งเน้นการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Data center ที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำสูง และจะมุ่งเน้นการผลิตน้ำที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมองหาแหล่งน้ำดิบทดแทน เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดหาน้ำ รวมทั้งมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในพื้นที่นอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตลอดจนเข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับน้ำประปาและการจัดการน้ำเสียของหน่วยงานภาครัฐรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 4% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นยอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำภายในประเทศประมาณ 132 ล้านลูกบาศก์เมตร และในประเทศเวียดนามประมาณ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร
ธุรกิจพลังงาน ในปี 2567 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับลูกค้าอุตสาหกรรม (Private PPA) เพิ่ม 76 สัญญา หรือเท่ากับ 106 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 965 เมกะวัตต์สำหรับในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ และทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff และโครงการ Direct PPA เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เริ่มดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ Micro Grid ที่นิคมเขตอุตสาหกรรม WHA Smart TechnologyZone 1 ในจังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa)เฟส 1 คาดว่าจะพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2569 สำหรับในปี 2568 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,185 เมกะวัตต์ซึ่งจะเป็นพลังงานหมุนเวียน 657 เมกะวัตต์หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 55% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP กล่าวว่าบริษัทฯ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม โดยในส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค ได้เดินหน้าพัฒนา Smart Water Solutions ด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริหารจัดการระบบน้ำอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการลูกค้า
ในส่วนของธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ได้นำ AI มาพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบ Solar Anomaly ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติของแผงโซลาร์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใน ธุรกิจ NewS-Curve ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต อาทิ เทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและมีเสถียรภาพสูง
นายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน WHAUP กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานใน 5 ปี (2568-2572) บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปี ที่ 29,000 ล้านบาท รองรับการลงทุนขยายธุรกิจทั้งด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน โดยวางแผนสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติให้เติบโต 2.5 เท่าจากปี 2567 และตั้งเป้าหมายมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติของบริษัทฯ รวม 5 ปีข้างหน้าที่ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไร EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี