นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 อุตสาหกรรมเด่นที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 โครงการ Easy E-Receipt 2.0 รวมถึงการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง ตามการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) และกระแส Soft Power ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าแสนล้านบาท ช่วยกระตุ้นธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกในประเทศ ประกอบกับผู้บริโภคในปัจจุบันมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Wellness) ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารอนาคต (Future Food) ทั้งอาหารทางการแพทย์ อาหารที่มีคุณสมบัติเฉพาะรายบุคคล (Personalized Foods) ในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ควบคุมน้ำหนักมีความต้องการเพิ่มขึ้น ตลอดจนไทยยังเป็นเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกหลายรายการ เช่น ไก่แปรรูป ปลาทูน่ากระป๋อง และ อาหารสัตว์สำเร็จรูป ช่วยให้การผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องในห่วงโซ่การผลิต ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้รับอานิสงส์จากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งเน้นการจัดส่งสินค้าหรือการให้บริการ Delivery ที่ขยายตัวตามธุรกิจ E-Commerce เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ต่อเนื่องไปถึงอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ เช่น พลาสติก กระดาษ และโลหะที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการผลิตนับตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นอกจากนี้พบว่าการผลิตเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวตามการเติบโตของสังคมเมือง สะท้อน’จากการจำหน่ายในประเทศและมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับไทยได้แต้มต่อจากการเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งมาตรฐานของสินค้าได้รับการยอมรับระดับโลก
ในด้านของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ได้แรงหนุนจากการค้าผ่านช่องทาง Social Commerce และการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่าน Digital Wallet ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ควบคู่ไปกับการก้าวหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่จำเป็นต้องนำเทคโนโลยี Cloud Computing เข้ามาใช้ประมวลผล จัดเก็บ และบริหารข้อมูล สะท้อนได้จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่เผยยอดมูลค่าการลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2567 ที่ผ่านมา สูงถึง 2.4 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการ Data Center และ Cloud Service ทำให้การผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์กว่า 75% จำเป็นต้องใช้ HDD ในการเก็บข้อมูลปริมาณมาก รวมถึง 80% HDD ทั้งโลกผลิตในไทย
นายภาสกร กล่าวว่า ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์สันดาป (ICE) วัสดุก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ ต้องเร่งปรับตัวจากปัจจัยเชิงลบของหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง รวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ บั่นทอนให้การผลิตรองรับการบริโภคชะลอตัว ขณะเดียวกันผลกระทบจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่ทะลักเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญ
‘ในปี 2568 อุตสาหกรรมดาวเด่นได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และบรรยากาศการค้าโลก ขณะที่บางอุตสาหกรรมต้องเร่งปรับตัว เนื่องจากเผชิญกับความท้าทายต่อการปรับตัวให้ทันต่อเทรนด์โลกและการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ผู้ประกอบการควรปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับผลิตภาพการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อทดแทนการนำเข้าและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก’นายภาสกร กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี