นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ครั้งที่ 3/68 ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มีร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจตามกฎหมายทุกหน่วยงานร่วมด้วยกว่า 20 หน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) , จังหวัด , องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น , ตรวจคนเข้าเมือง , ศุลกากร , สำนักงานพาณิชย์จังหวัด , จัดหางานจังหวัด , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา , กรมการท่องเที่ยว , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อตรวจสอบนอมินี (คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงทำตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542) และสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และทำให้ทั้ง 2 ปัญหานี้หมดไปจากประเทศ โดยจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันดำเนินในเรื่องดังกล่าวต่อไป
สำหรับคณะทำงานชุดนี้ จะทำงานเชิงรุก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจตามกฎหมายเกี่ยวกับนอมินี และการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มาทำงานร่วมกัน ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจะเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างนอมินี และสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐาน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ คณะทำงานชุดดังกล่าว จะต้องรายงานผลการดำเนินงานมายังคณะอนุกรรมการฯ ทุกเดือน จากนั้น คณะอนุกรรมฯ จะรายงานต่อคณะกรรการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ก่อนรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับผลการปราบปรามนอมินี ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 สามารถจับกุมดำเนินคดีธุรกิจนอมินีได้แล้ว 783 คดี มูลค่าความเสียหาย 11,783 ล้านบาท ส่วนเดือน ม.ค.2568 จับกุมดำเนินคดีเพิ่มได้อีก 37 คดี ความเสียหาย 710 ล้านบาท รวมทั้งหมด 820 คดี ความเสียหาย 12,495 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนอมินีในธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ เช่น ตลาดออนไลน์ วัสดุก่อสร้าง สำนักงานบัญชี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระยอง รวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก ค้าอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง โดยมีทั้งต่างด้าวจากประเทศในยุโรป และเอเชีย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังอยู่ระหว่างการจัดทำระบบ IBAS เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลนิติบุคคล และจับผิดนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นนอมินี คาดว่า จะแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้ และยังจัดทำระบบในเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เพื่อให้สามารถค้นหาได้ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพนำที่อยู่ของบุคคลไปเป็นที่อยู่ของนิติบุตคลบัญชีม้าหรือไม่ หากมี ขอให้แจ้ง และจะส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ส่วนการจัดการปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC) สายด่วน 1441 ได้ส่งรายชื่อบุคคลรหัส HR-03 มาให้แล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนม.ค.2568 รวม 204,000 ราย ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า รายชื่อทั้งหมด มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลในไทยรวม 1,159 ราย และทั้งหมดมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิติบุคคลบัญชีม้าหรือธุรกิจสีเทาในไทย จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง (ซีไอบี) , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินการต่อแล้ว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี