OMODA & JAECOO เผยความสำเร็จ และแผนการเติบโตในอนาคต พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ "One Vision, One Drive, Inspiring the E-Future" เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และตั้งฐานการผลิตในไทย ขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มบริการแบบครบวงจร
ในปี 2567 Chery Group บริษัทแม่ของ OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) มียอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 38% หรือ ยอดส่งมอบ 2.6 ล้านคัน คิดเป็นยอดรายได้ที่เติบโตขึ้นกว่า 50% ในขณะที่ OMODA & JAECOO ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และมีการเปิดตัวทั่วโลกถึง 33 ประเทศ รวมถึงประเทศ มียอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 54% ทั่วโลก
นายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ความสำเร็จของ OMODA & JAECOO ในปี 2567 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่อนาคต แห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมานี้ ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อรถ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของเรา แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในปีนี้ OMODA & JAECOO ได้เตรียมแผนรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง ทั้งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ตั้งฐานการผลิตในไทย ขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุม พร้อมเพิ่มบริการแบบครบวงจร"
OMODA & JAECOO เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในหลากหลายกลุ่ม โดยในปีนี้เน้นการนำเสนอเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System) ที่ OMODA & JAECOO ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดยานยนต์โลก ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ที่เน้นเรื่องการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน ที่ทำให้การวิ่งได้ระยะยาวขึ้น แต่ยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal Efficiency) ที่ดีเยี่ยม ระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล การปล่อยคาร์บอนเพียงน้อยนิด และระบบแบตเตอรี่ ที่มีความปลอดภัยสูงเป็นพิเศษอย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่มี นับเป็นโซลูชันเทคโนโลยีไฮบริดที่ผสานประสิทธภาพสูง การประหยัดพลังงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน
ปีนี้ OMODA & JAECOO พร้อมนำเสนอยนตรกรรมพลังงานใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้ง BEV, PHEV และอื่นๆ และเตรียมจัดเต็มกองทัพผลิตภัณฑ์ทุกโมเดลในงานมหกรรมยานยนต์ Bangkok International Motor Show ที่จะถึงนี้ พร้อมเตรียมเปิดฐานการผลิตที่โรงงานในจังหวัดระยอง คาดว่าพร้อมเริ่มเดินสายการผลิตในไตรมาสที่ 2 ของปี
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมขยายเครือข่ายโชว์รูม โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโชว์รูม จากเดิม 23 แห่ง เป็นกว่า 50 แห่ง ทั่วประเทศในปีนี้ ควบคู่ไปกับการยกระดับบริการหลังการขาย โดยได้ร่วมมือกับ DHL Express ในการดำเนินการจัดส่งอะไหล่ระหว่างประเทศ ภายใน 3 วัน พร้อมขยายคลังอะไหล่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และลดระยะเวลาการสั่งซื้ออะไหล่เร่งด่วนจากโรงงานผู้ผลิตในประเทศจีนจาก 30 วัน เหลือเพียง 15 วัน รวมถึง เพิ่มบริการดูแลตัวถังและสีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานให้ครบทุกโชว์รูม พร้อมเตรียมเปิดศูนย์ฝึกอบรมแบบเต็มรูปแบบ (Training Center) แห่งใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้ทุกการบริการเป็นไปตามมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้ง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศไทย ฟรี 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี