นายพงศภัค นครศรี ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมงาน FTI Expo 2025 จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระหว่างวันที่ 12-15 ก.พ.นี้ ณ บูธ C1 Hall 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมทั้งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสายไฟฟ้าที่ทันสมัย ตลอดจนโซลูชันพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัท เข้าร่วมจัดแสดงในงาน โดยการเข้าร่วมครั้งนี้ถือเป็นการเข้าร่วมงาน FTI Expo ของบริษัทเป็นครั้งแรก
“สายไฟฟ้า มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาเมือง การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน และเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคด้านพลังงานไฟฟ้า เราในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมไฟฟ้ามากว่า 60 ปี จึงได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามาตลอด 6 ทศวรรษ มาสะท้อนถึงภาพความพร้อมการก้าวเข้าสู่อนาคตของอุตสาหกรรมสายไฟฟ้า ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านเมืองและอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” นายพงศภัค กล่าว
สำหรับไฮไลต์ภายในบูธ ประกอบด้วย การนำสินค้าสายไฟฟ้าที่ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งานทั้ง 7 กลุ่ม มาจัดแสดง ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Residential and commercial) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) 7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) ครอบคลุมตั้งแต่สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage Cables) ไปจนถึงสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ (Extra-High Voltage Cables) สายโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic Cables) สายคอนโทรลและสายสัญญาณ (Control and Instrumental Cables)
นายพงศภัค กล่าวอีกว่า ภายในงาน ยังได้จัดแสดงผลงานและความมุ่งมั่นของบริษัทภายใต้แนวคิด “เซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม” โดยแบ่งกลุ่มจัดแสดงเป็น 1.เซฟคน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการผลิตสายไฟฟ้าที่ปลอดภัยต่อการใช้งานของผู้คน การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงสุดที่ทนต่อความร้อน แรงดัน และสภาพแวดล้อม ลดความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร 2.เซฟเมือง แสดงคุณภาพมาตรฐานที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาจนได้รับการรับรองระดับโลก ตลอดจนเทคโนโลยีการนำสายไฟฟ้าลงดินอย่างปลอดภัย เพื่อทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง และ 3.เซฟสิ่งแวดล้อม โชว์นวัตกรรมและผลงานการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ตลอดจนความมุ่งมั่น ความใส่ใจชุมชนและสิ่งแวดล้อมผ่านการร่วมปลูกป่า
“ทิศทางของงาน FTI Expo ในปีนี้ ต้องการให้ภาคอุตสาหกรรมมุ่งไปใน 4 ทิศทาง คือ 1.Go Digital & AI 2.Go Innovation 3.Go Green และ 4.Go Global เราเองมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน และมุ่งขับเคลื่อนองค์กรและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปในทิศทางเดียวกัน เรามีเทคโนโลยี Smart Factory ที่นำปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาช่วยในโรงงาน เรามุ่งมั่นด้านนวัตกรรม ใส่ใจเรื่อง R&D อย่างต่อเนื่อง เรามีสายไฟที่พร้อมรองรับการเติบโตของพลังงานสะอาด และเรายังมุ่งมั่นนำนวัตกรรมสายไฟฟ้าของไทยไปจำหน่ายและให้บริการระดับอาเซียน โดยเฉพาะในโครงการ ASEAN Power Grid” นายพงศภัค กล่าว
สำหรับ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ.2507 ให้บริการครอบคลุม 7 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Construction and Building) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และ 7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) เพื่อสร้างความปลอดภัยและขับเคลื่อนเมืองสู่อนาคต ปัจจุบัน มีลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้สายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล อาทิ โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากนี้ บริษัท มีส่วนสนับสนุนโครงการ ASEAN Power Grid โดยเฉพาะโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง (Luang Prabang Hydropower Project) ในประเทศลาว
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี