นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน ‘Thailand Economic Monitor’ ของธนาคารโลก (World Bank) ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้ธีม ‘Unleashing Sources of Growth: Innovation, SMEs and Startups’ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ หอการค้าต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ เข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ตนมองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่า GDP ปี 2568 นี้จะขยายตัวได้ 3% สูงกว่าที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ทำสถิติสูงสุดถึง 10 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 5.4% ในปี 2567 ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่อย่าง PCB (Printed Circuit Board) ที่กำลังทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก
โดยรัฐบาลได้ให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สินค้าไทย ทั้งนี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาไทยได้ลงนาม FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ เอฟตา(EFTA) ซึ่งประกอบด้วย สวิสเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ขณะเดียวกันการเจรจา FTA ไทย-ภูฏาน ก็กำลังใกล้บรรลุผลในเร็ววันนี้ และไทยยังอยู่ระหว่างเจรจา FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป(อียู) โดย FTA ไทย-อียู มุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงภายในสิ้นปี 2568 นี้ตามแนวทางการเจรจาที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้
นายพิชัย กล่าวว่า การพัฒนา SMEs และ Startups เป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 5 เรื่อง ในการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.ทลายทุนผูกขาด ปลดล็อกให้คนตัวเล็กส่งออกข้าวได้ มีการปรับลดข้อจำกัดด้านสต๊อกและค่าธรรมเนียม เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้มากขึ้น
2.ใช้ FTA เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มแต้มต่อในการค้าและการลงทุน
3.จัดระเบียบสินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินี เข้มการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสินค้าต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน และป้องกันธุรกิจแอบแฝงของคนต่างด้าว
4.เสริมศักยภาพ SMEs ด้วยเงินทุนและนวัตกรรม ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพขยายตลาดและยกระดับคุณภาพสินค้า มีแนวทางที่จะร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
5.สร้าง Thailand Brand สร้างแบรนด์ ‘Thailand Brand by…’ การันตีสินค้าของ SMEs ที่ยังไม่มีแบรนด์ของตัวเองให้สามารถส่งออกได้ พร้อมรับรองคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จะยึดหลัก 80:20 ในการดำเนินงาน โดย 80% เป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก ขณะที่ 20% เป็นผู้กำกับดูแล เพื่อรักษาความเป็นธรรมและปกป้องสิทธิของผู้บริโภค โดยขอให้มั่นใจว่าด้วยแนวทางนี้ SMEs และ Startups ไทยจะเติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก และภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง คนไทยจะได้รับโอกาสด้านการค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี