กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด อันดับที่ 1 เรื่อง ‘เช็กสถานะรับเงินดิจิทัลฯ เฟส 3 เฟส 4 ในแอปฯทางรัฐได้แล้ว’ รองลงมาคือ เรื่อง ‘ดื่มน้ำมะกรูดโซดา ลดไขมันในเลือด ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น’ โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเข้าใจผิดและความสับสนในสังคม
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 7-13 กุมภาพันธ์ 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 825,786 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 529 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 492 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 31 ข้อความ ช่องทาง Website จำนวน 30 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 81 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 175 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 44 เรื่อง
ทั้งนี้กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 88 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 54 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ภัยพิบัติ จำนวน 8 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 เศรษฐกิจ จำนวน 3 เรื่อง
กลุ่มที่ 5 กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 22 เรื่อง
นายเวทางค์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆในสัปดาห์นี้ พบว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับโครงการของรัฐ เรื่องสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และโครงการสินเชื่อของธนาคารรัฐ ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจเกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สิน
โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1. เรื่อง ‘เช็กสถานะรับเงินดิจิทัลฯ เฟส 3 เฟส 4 ในแอปฯ ทางรัฐได้แล้ว’ ,2.เรื่อง ‘ดื่มน้ำมะกรูดโซดา ลดไขมันในเลือด ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น’ ,3.เรื่อง ‘เช็กสุขภาพเลือดได้จากเส้นผม’ ,4.เรื่อง ‘เครื่องดื่มป้องกันการตั้งครรภ์’ , 5.เรื่อง ‘พะยูนไทยจะสูญพันธุ์ ใน 3 เดือน เกยตื้นตายไปแล้ว 29 ตัว’ ,6.เรื่อง ‘ภูมิปัญญาชาวบ้านรักษาฟันผุ สมุนไพรช่วยขับหนอนชอนรากฟันได้’ ,7.เรื่อง ‘ออมสินยกเลิกแบล็คลิสต์ ปล่อยกู้ 100,000 บาท ผ่อนเพียง 2,167 บาท/เดือน’ ,8.เรื่อง ‘ดาวเทียมธีออส-2 ถูกใช้สำรวจพิกัดจุดตำแหน่งวัตถุในคดีแตงโม’ ,9.เรื่อง ‘เงินกู้ด่วน ประกันสังคมจับมือเฮงลิสซิ่ง ปล่อยกู้ 30,000 บาท ผ่อนแค่ 238 บาท/เดือน’ และ10.เรื่อง ‘เพจ LEASE it PCL 743 ปล่อยสินเชื่อ ธ.ออมสิน วงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท’
‘เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโครงการรัฐบาล และผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเรื่องของโครงการสินเชื่อของธนาคารรัฐ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อประชาชน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ความเชื่อผิดๆ และความวิตกกังวลได้ โดยในส่วนของข่าวปลอม ขอให้ประชาชนระมัดระวัง การแอบอ้างของมิจฉาชีพ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงทำให้สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล และทรัพย์สิน ซึ่งหากมีการแชร์ส่งต่อกันไปในสังคม มีผลทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วประเทศเป็นวงกว้าง’นายเวทางค์ กล่าว
สำหรับข่าวปลอมเรื่อง ‘เช็กสถานะรับเงินดิจิทัลฯ เฟส 3 เฟส 4 ในแอปฯ ทางรัฐได้แล้ว’ กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA สำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ช่องทางที่ให้ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ไม่ใช่ช่องทางการติดต่อสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลการดำเนินงานตามภารกิจที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการของ DGA และปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และเฟส 4 อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เป็นทางการของโครงการต่อไป
ส่วนข่าวปลอมเรื่อง ‘ดื่มน้ำมะกรูดโซดา ลดไขมันในเลือด ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น’ กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงการดื่มน้ำดังกล่าวว่าจะสามารถลดไขมันในเลือด หรือช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นได้ และโซดายังมีฤทธิ์เป็นกรด อาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือปัญหาลำไส้แปรปรวนได้ อีกทั้งอาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำไม่เพียงพอ หากดื่มแทนน้ำเปล่า
อย่างไรก็ตามกระทรวงดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด ทั้งนี้สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) ,Line ID: @antifakenewscenter ,เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี