ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) เดินหน้าจัดทำความร่วมมือในการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้ากับองค์กรหรือหน่วยงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าของไทยให้เป็นสากลยิ่งขึ้น โดยหลังจากได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับองค์กรกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดได้เดินหน้ายกระดับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย สำนักงาน กขค.ได้ลงนาม MOU กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันทางธุรกิจของออสเตรเลีย (ACCC)

นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมประชุมหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการดำเนินการด้านนโยบายและกฎหมายการแข่งขันทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสมของแต่ละประเทศ ซึ่งสำนักงาน กขค.ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ Ms. Gina Cass - Gottlieb,ประธานกรรมการ ACCC Mr. Peter Crone, กรรมการ ACCC และคณะ

นายไมตรี สุเทพากุล ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สำนักงาน กขค. กับ ACCC มีความร่วมมือด้านการเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรและการจัดทำนโยบายการแข่งขันทางการค้าผ่านโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น อาเซียน มูลนิธิเอเชีย(TAF) กระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย(DFAT) ซึ่งการลงนาม MOU ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือในลักษณะทวิภาคีระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของไทยกับเครือรัฐออสเตรเลียโดยตรง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นรูปธรรม

โดยภายใต้ MOU นี้ได้กำหนดให้มีการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในการบังคับใช้กฎหมาย ผ่านการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศ (Best practice) การศึกษาดูงาน การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหรือจัดหลักสูตรอบรมระยะสั้น การกำหนดแผนการทำงานร่วมกัน และการประสานงานเพื่อดำเนินกิจกรรมการบังคับใช้นโยบายและกฎหมายการแข่งขันทางการค้าร่วมกัน ตลอดจนความร่วมมือในกรณีที่มีการดำเนินกิจกรรมภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า การสอบสวน หรือการดำเนินคดี แล้วอาจส่งผลกระทบต่อประโยชน์อันสำคัญของอีกฝ่าย อีกทั้ง จะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันและปัจจัยต่างๆ ให้เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เกิดประสิทธิภาพต่อการดำเนินธุรกิจ และเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม

-033