ACT(ACET) บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ กับ Saif Belhasa Holding ประเมินมูลค่าธุรกิจหลายพันล้านดอลลาร์ร่วมพลิกโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมี UAE เป็นศูนย์กลาง
ACT (ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ลงนาม MOU ครั้งประวัติศาสตร์ กับ‘Saif Belhasa Holding’ กลุ่มบริษัทชั้นนำที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลางและ UAE เพื่อมุ่งสร้างโซลูชันทางการเงินร่วมกัน โดยใช้ ACT(ACET) ในการชำระเงินและเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ล้ำสมัยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท SBH
นายวรวัฒน์ นาคแนวดี นักธุรกิจนักลงทุนและมหาเศรษฐีคริปโตชื่อดังจากประเทศไทย ที่ถือครอง Bitcoin มากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ผู้ก่อตั้งสกุลเงินดิจิทัล ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยระบบบล็อกเชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ ระหว่าง ACT(ACET) และกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) นำโดย Dr. Saif Ahmad Belhasa ประธานและผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลางและประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 170,000 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง ค้าปลีก อุตสาหกรรมยานยนต์ การศึกษา การเงิน ฯลฯ หลังบรรลุข้อตกลงการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและระบบการชำระเงินดิจิทัลด้วย ACT(ACET) ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ล้ำสมัย มาเป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างไร้รอยต่อในภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัท SBH และ UAE โดยวางโรดแมป 3 ปี ดังนี้
อสังหาริมทรัพย์: ใช้ ACT(ACET) เป็นสื่อกลางในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ของ SBH พร้อมร่วมกันศึกษาการใช้ NFT Property Tokenization เพื่อให้สามารถถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์แบบแบ่งส่วนผ่านบล็อกเชนได้
ยานยนต์: ใช้ ACT(ACET) ในการซื้อ และเช่ารถยนต์หรูจากตัวแทนจำหน่ายของ SBH รวมถึงการนำ ACT(ACET) มาใช้เป็นตัวเลือกสำหรับการจัดไฟแนนซ์ที่รองรับคริปโต
การค้าปลีก และการบริการ: นำ ACT(ACET) มาใช้เป็นวิธีการชำระเงินในศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมและธุรกิจอื่น ๆ ในเครือของ SBH โดยผู้ถือ ACT(ACET) จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น รางวัลพิเศษ สมาชิกระดับ VIP ส่วนลดอื่น ๆ พร้อมพัฒนาระบบ Next-generation loyalty เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการให้รางวัลลูกค้า
บริการทางการเงิน: ร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใช้บล็อกเชน เช่น การให้กู้ยืม การค้ำประกัน (Staking) และสร้างการมีส่วนร่วมในกองทุนการลงทุนเพื่อสำนักงานครอบครัว (Family Offices) และกลุ่มทุนเอกชน เพื่อผลักดันให้ ACT(ACET) ได้รับการยอมรับในระดับสถาบัน พร้อมสำรวจโอกาสในการลงทุนด้าน Venture Capital ที่ใช้สินทรัพย์คริปโตเป็นหลัก
สัญญาอัจฉริยะและสินทรัพย์ดิจิทัล: บูรณาการโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชน ACT(ACET) เข้ากับระบบการเงินของ SBH เพื่อให้การดำเนินการตามสัญญา การโอนสินทรัพย์ และการชำระเงินโดยอัตโนมัติมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย พร้อมร่วมกันศึกษาแนวทางการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควบคู่กับบล็อกเชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ
การขยายธุรกิจระดับสถาบันและความร่วมมือกับภาครัฐ: ร่วมมือกันเพื่อปรับแนวทางด้านบล็อกเชนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งดูไบ (Virtual Asset Regulatory Authority: VARA) และตลาดโลกอาบูดาบี (Abu Dhabi Global Market: ADGM) เพื่อส่งเสริมให้ ACT(ACET) ได้การรับรองทางกฎหมายและถูกนำไปใช้ในวงกว้าง
“ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะทำให้ ACT(ACET) กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ได้จริงในภาคธุรกิจของ UAE ซึ่งเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์, สินค้าหรู, ยานยนต์, การเงิน, การค้าปลีกและการบริการ ฯลฯ โดยหลังจากนี้ ACT(ACET)
จะไม่ถูกจำกัดเฉพาะแค่การลงทุนเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจดิจิทัลที่มี SBH และ UAE เป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงพลังที่สุด และจะขยายออกไปในอีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจะไปสู่การนำคริปโตมาใช้ในชีวิตประจำวัน ผมเชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือนี้จะทำให้ ACT(ACET) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดรวม (MarketCap) ที่สูงขึ้นและกลายเป็นคริปโตชั้นนำของโลกด้วยระยะเวลาที่สั้นลง” นายวรวัฒน์ กล่าวในตอนท้าย
Dr. Saif Ahmad Belhasa ประธานและผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) กล่าวว่า MOU นี้ ทำให้ SBH ได้ก้าวเข้าสู่อนาคตดิจิทัลอย่างกล้าหาญ กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของ UAE ที่ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่ Ecosystem ที่ครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลายของเรา โดยเราจะใช้ ACT(ACET) เป็นวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างเป็นทางการในภาคธุรกิจที่กำหนด พร้อมส่งเสริมการใช้งาน ACT(ACET)ในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน พันธมิตรทางธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสนับสนุนการขับเคลื่อน ACT(ACET)ให้ไปสู่ระดับโลก ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และพันธมิตรทางธุรกิจ
“ความร่วมมือระหว่าง SBH กับ ACT(ACET) ในครั้งนี้จะเป็นการพลิกโฉมโซลูชันทางการเงินในรูปแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของ SBH ด้วยบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการชำระเงินด้วยทั้งใน UAE และระดับโลกร่วมกับ ACT(ACET) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ยอดเยี่ยมของเรา”
เกี่ยวกับ ACT(ACET) และ Saif Belhasa Holding (SBH)
ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2021 โดยนายวรวัฒน์ นาคแนวดี นักธุรกิจและนักลงทุนชื่อดังที่คร่ำหวอดในวงการคริปโทเคอร์เรนซีมานานกว่า 13 ปี ปัจจุบันเหรียญ ACT(ACET) มีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 413 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14,000 ล้านบาท และมีผู้ถือครองมากกว่า 156,000 คนทั่วโลก ( ที่มา https://acet.finance/ )
ในขณะที่ Saif Belhasa Holding (SBH) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2001 เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลา งและประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ UAE ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใต้การนำของ Dr. Saif Ahmad Belhasa นักธุรกิจที่เคยติดอันดับที่ 38 ในรายชื่อชาวอาหรับที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ปัจจุบันมีธุรกิจในเครือมากกว่า 50 แห่ง มีพนักงานกว่า 10,000 คน ดำเนินธุรกิจในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การจัดหา และจ้างงาน ยานยนต์ ค้าปลีก การเงิน การโฆษณา ท่องเที่ยว และการเดินทาง ฯลฯ (ที่มา https://saifbelhasaholding.com/)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี