กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขขออนุญาตส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 มีปริมาณมากถึง 871,575 ตัน มูลค่ากว่า 5,333 ล้านบาท สามารถดูดซับหัวมันสด
ในประเทศได้กว่า 2.07 ล้านตัน ตอกย้ำความสำเร็จของการจัดพิธีลงนามสัญญาซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้ประกอบการจีนเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ในการส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยทั้งระบบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการกระตุ้นการส่งออกมันสำปะหลังภายหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศได้เร่งผลักดันการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังตามนโยบายรัฐบาล โดยการจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางจัดกิจกรรมปลุกตลาดการค้ามันสำปะหลังในจีน ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนครเฉิงตู เมื่อวันที่ 6-8 มกราคม 2568 และจัดพิธีลงนามสัญญาซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย กับบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายักษ์ใหญ่ด้านการค้าสินค้าเกษตรของจีน ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อเร่งผลักดันการขยายตลาดส่งออก กระตุ้นความต้องการสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในต่างประเทศ ทั้งในอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ที่เป็นตลาดเก่าและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่เป็นตลาดใหม่ ซึ่งสามารถสร้างความต้องการซื้อ (Demand) ล่วงหน้าให้กับมันสำปะหลังไทยได้รวมถึง 980,000 ตัน มูลค่า 8,803.46 ล้านบาท
“ตั้งแต่มีการลงนามสัญญาซื้อขายและ MOU ปัจจุบันกรมการค้าต่างประเทศได้อนุญาตให้ส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดแล้ว ปริมาณกว่า 871,575 ตัน คิดเป็น 89% ของปริมาณที่ลงนาม MOU ข้างต้น อีกทั้งเป็นที่น่ายินดีคือมีการส่งออกไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่เป็นตลาดใหม่ของจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ”นายพิชัยกล่าว
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แม้จะผ่านช่วงตรุษจีนไปแล้ว
แต่ความต้องการซื้อมันสำปะหลังของไทยยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จจากการเร่งขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังของกระทรวงพาณิชย์ และปัจจุบันตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังโดยเฉพาะมันเส้นเป็นไปในทิศทางที่ดี ราคาส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิดการแข่งขันกันรับซื้อระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมเอทานอลกับกลุ่มอาหารสัตว์ของจีน ประกอบกับราคาข้าวโพดในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากความกังวลในเรื่องสงครามทางการค้าระลอกใหม่ (Trump 2.0) และการลดลงของปริมาณการเพาะปลูกข้าวโพดในแหล่งเพาะปลูกข้าวโพดสำคัญของโลก โดยเฉพาะ อาร์เจนตินา และ บราซิล จึงนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสินค้ามันสำปะหลังไทยในการขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมและตลาดที่หลากหลาย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังว่าจะมีตลาดที่ดีรองรับและสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับกลไกตลาดโลกต่อไป
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี