นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม 19,330 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2566 และเกินกว่าเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ที่ 17,800 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อนหน้า และเกินเป้าหมายรายได้เดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 8,700 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิ 1,457 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 33% ซึ่งถือเป็นสถิติรายได้และกำไรสุทธิที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (New High)
ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากโครงการที่มีกระแสตอบรับดีและมียอดโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นอย่าง 'เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์' (Kave Town Island) มูลค่า 3,500 ล้านบาท และ'เดอะ ไทเทิล ฮาโล 1' (THE TITLE HALO 1) มูลค่า 1,537 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแรกที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์และทยอยรับรู้รายได้ หลังบริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต
'ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ที่ผ่านมา ค่อนข้างผันผวนจากหลายปัจจัย แต่บริษัทยังสามารถรักษาการเติบโตด้านยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง จากการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน การขยายไปยังทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ต และการส่งมอบโครงการได้ตามกำหนด ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจ นอกจากนี้บริษัทใช้กลยุทธ์ Lifestyle Marketing ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่าง ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น'นายกรมเชษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามแม้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ต้องเผชิญความท้าทายจากมาตรการคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แต่ยังมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งธนาคารโลก (World Bank) และกระทรวงการคลัง ประเมินว่า จีดีพีไทยจะเติบโตขึ้นประมาณ 2.9-3.0% จากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน การส่งออกและการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ยังมีการเข้ามาลงทุน Data Center ของ Tech Company ระดับโลกในไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงานคนในประเทศ และ Expats ส่งผลให้กำลังซื้อของคนในประเทศมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงกระตุ้นดีมานด์การเช่าและซื้อคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ
โดยในปี 2568 นี้บริษัทจึงเดินหน้ากลยุทธ์ Growing Success, Growing Happiness เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ด้วยการวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ รวมมูลค่า 22,000 ล้านบาท บนทำเลยุทธศาสตร์ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ รวมมูลค่า 20,500 ล้านบาท ครอบคลุม 3 แบรนด์หลัก KAVE, ATMOZ และ MODIZ อาทิ 'แอทโมซ เดอ โซล ทิพวัล สเตชั่น' (Atmoz De Sol Thipphawan Station), 'เคฟ เพลย์กราวด์' (Kave Playground) รวมถึงโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต เช่น 'เดอะ คาตาเบลโล' (THE KATABELLO), 'อะดอร่า ราไวย์' (ADORA RAWAI) และโครงการแนวราบในภูเก็ตอีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล ควบคู่กับการสร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อย่างธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์, Health & Wellness และเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 19,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 10,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่แข็งแกร่ง ราว 25,413 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์และทยอยรับรู้รายได้ในปี 2568 ทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เตรียมโอนในช่วงครึ่งปีแรก 4 โครงการ ได้แก่ 1.'แอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง' (Atmoz Season Ladkrabang) คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ มูลค่า 1,100 ล้านบาท 2.'เคฟ โคโค่ บางแสน' (Kave COCO Bangsaen) โครงการแคมปัสคอนโดติด ม.บูรพา มูลค่า 2,000 ล้านบาท 3.'แอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน' (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่า 1,750 ล้านบาท และ 4.'แอทโมซ แคนวาส ระยอง' (Atmoz Canvas Rayong) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ติดเซ็นทรัลระยอง มูลค่า 1,250 ล้านบาท
'ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทก้าวผ่านวิกฤต และค่อยๆเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งปี 2568 นี้แม้จะเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างรอบคอบ พร้อมปรับตัวให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ บริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้าตามกำหนด ควบคู่กับบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน บริษัทมั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ Growing Success, Growing Happiness ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพันธมิตรที่สั่งสมมาตลอดสองทศวรรษ บริษัทจะสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในทุกสภาวะเศรษฐกิจ และบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ'นายกรมเชษฐ์ กล่าว
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี