นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในนามประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ตนและนายอุเดด สุวันนะวง ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กับสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (Memorandum Of Understanding Between The Joint Standing Committee On Commerce, Industry And Banking Of Thailand (JSCCIB) And Lao National Chamber Of Commerce And Industry (LNCCI))
สำหรับการลงนาม MOU ในครั้งนี้ จัดขึ้นในโอกาสที่นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
นายเกรียงไกร กล่าวว่า การลงนาม MOU มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจและพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดยเอกชนทั้ง 2 ฝ่ายจะสนับสนุนในการจัดกิจกรรรมต่างๆ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน ส่งเสริมให้นักธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่จะจัดขึ้นทั้งในไทยและสปป.ลาว โดยเฉพาะ ‘งานมหกรรมพืชสวนโลก’ ในปี 2569 รวมถึงการแสดงเจตจำนงในการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สปป.ลาว เพื่อดำเนินการกิจกรรมต่างๆตามข้อตกลงที่จะมีขึ้นด้วย
‘การลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนให้มีความใกล้ชิดและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย-สปป.ลาว อย่างยั่งยืน’นายเกรียงไกร กล่าว
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังได้รับคำเชิญจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อเป็นเกียรติแก่นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และภริยา ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับการเยือนครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเริ่มต้นเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว โดยทั้ง 2 ประเทศได้เน้นย้ำถึงมิตรภาพและความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน ซึ่งไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.การสร้างความมั่นคงชายแดนให้ปราศจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ (Online Scam) ,2.การส่งเสริมเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ และ 3.การเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและ สปป. ลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศพัฒนาและก้าวหน้าไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกันทั้ง 2 ฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์และความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยไทยพร้อมร่วมมือกับ สปป. ลาว อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และกรอบอาเซียน เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์และแก้ไขปัญหาที่ภูมิภาคเผชิญร่วมกันต่อไป
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี