นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลากหลายที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กฎหมาย และปัจจัยภายในองค์กร ทำให้การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ทั้งนี้กรมการท่องเที่ยวได้จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงที่เน้นให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้าใจหลักการและกระบวนการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้สามารถระบุ วิเคราะห์ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจนำเที่ยวที่ต้องพิจารณาทั้งปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และกฎหมาย รวมถึงปัจจัยภายใน เช่น กฎระเบียบภายในองค์กร และประสบการณ์ของพนักงาน การกำหนดมาตรการรับมือความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่มาตรฐานสากลอย่าง ISO 31030 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนและจัดการความเสี่ยงในการเดินทาง โดยมุ่งเน้นการปกป้องบุคลากร ข้อมูล และทรัพย์สิน รวมถึงการลดความเสี่ยงทางกฎหมายและการเงิน

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการความเสี่ยงของนักท่องเที่ยวในทุกมิติ เพื่อให้กระบวนการบริหารและจัดการความเสี่ยงมีประสิทธิภาพและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาและเสริมสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนแรกของปี 2568 พบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวนสูงถึง 5,015,187 คน ภายในระยะเวลา 1 เดือน การท่องเที่ยวเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับความปลอดภัยและการพัฒนาฝั่งซัพพลาย ซึ่งกลยุทธ์การขยายตลาดใหม่เริ่มให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยทาง ททท. ยังคงเดินหน้าหาเส้นทางการบินใหม่ ๆ และเพิ่มจำนวนสายการบิน พร้อมทั้งเจรจาเพื่อให้มีเที่ยวบินเชื่อมต่อมากขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคและเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ทั้งนี้จากสถิติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน (847,232 คน) มาเลเซีย (644,735 คน) รัสเซีย (347,613 คน) เกาหลีใต้ (275,408 คน) อินเดีย (243,385 คน) ฝรั่งเศส (165,499 คน) สหราชอาณาจักร (164,469 คน) สหรัฐอเมริกา (157,699 คน) ไต้หวัน (157,440 คน) และเยอรมนี (156,732 คน) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศ

-031