นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (25 ก.พ. 68) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ภาค 2 ซึ่งครอบคลุมการดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ. หนองคาย และกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการลักลอบลากสายสื่อสารข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. มีแผนดำเนินการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับกรมทางหลวง ขอให้มีการตรวจสอบการพาดสายสื่อสารของผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ให้บริการระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อป้องกันการลักลอบลากสายสื่อสารเถื่อนข้ามสะพาน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศจำนวน 17 สะพานทั่วประเทศ
“เมื่อช่วงก่อนปีใหม่ สำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว ไปแล้วครั้งหนึ่ง และพบว่ามีการลากสายสื่อสารเถื่อนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้เราจึงลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อจัดระเบียบสายสื่อสาร โดยให้ผู้รับใบอนุญาตที่เป็นเจ้าของสายสื่อสารติดแท็กเพื่อระบุความเป็นเจ้าของสายสื่อสาร ซึ่งปัจจุบันมีผู้รับใบอนุญาตที่ให้บริการแบบมีโครงข่าย ทั้งอินเทอร์เน็ต และวงจรเช่า ระหว่างประเทศ จำนวน 68 ราย” นายไตรรัตน์ กล่าว
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม และการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนใน อ. เมือง จ.หนองคาย จุดแรก ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง พบสายอากาศแบบโครงข่ายไร้สายระยะไกล หรือจานไวเลส ลิงก์ ความสูง 37.4 เมตร ซึ่งหันทิศทางไปยัง สปป.ลาว ห่างจากชายแดนเพียง 1.24 กิโลเมตร
จุดที่สอง พบจานไวเลส ลิงก์ ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ความสูง 25.6 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 7.75 กิโลเมตร และจุดสุดท้าย พบจานไวเลส ลิงก์ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง พบความสูง 18 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 936 เมตร ทั้งนี้จานไวเลส ลิงก์ สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกลได้สูงสุดถึง 30 กม.
ดังนั้นหากมีการติดตั้งจานฯ ในระยะใกล้เคียงตามแนวชายแดนก็อาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า มีการตั้งสถานีเพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดน และอาจนำไปสู่การใช้การก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยจะมีความผิดฐานมีใช้ และตั้งสถานีจานไวเลสลิงก์ ซึ่งถือเป็นเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498 มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ การลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย นับเป็นพื้นที่ที่ 5 ในรอบเดือนนี้ที่มีการตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม และการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนทั่วประเทศ
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี