นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) ของบริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรการดำเนินงานตามปกติของกิจการ 1,661.08 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,474.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.62% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9,731.24 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 7,697.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,033.67 ล้านบาท คิดเป็น 26.42%
ทั้งนี้เป็นผลมาจากผลประกอบการไตรมาส 4/2567 เทียบกับไตรมาส 4/2566 เติบโตค่อนข้างมากเกือบ 4 เท่า หรือเติบโตสูงถึง 395% จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า เช่น SF6 Gas Switch, Surge Arrester และอุปกรณ์อื่นๆ อีกทั้งมีรายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ
‘ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับรับโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มและโครงการพลังงานลม ซึ่งช่วงปลายปี 2567 บริษัทได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ ทั้งโครงการพลังงานลม และโครงการโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม โดยบริษัทคาดว่าจะได้เมกะวัตต์ส่วนนี้เข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ต ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะสามารถขยายธุรกิจไปในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ’นางสาวโศภชา กล่าว
ส่วนด้านงานก่อสร้าง บริษัทยังมีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของงานสายส่งและสถานีในส่วนของโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ ตามแผน PDP ใหม่ อีกทั้งภาคเอกชนมีการสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะมีรายได้ในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามา ขณะที่ Trading และ Manufacturing บริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในระบบ 115 Kv รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยทำ เพื่อรองรับการเติบโตในระบบส่งและระบบจำหน่ายต่อไปในอนาคต
สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2568 เชื่อว่ายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพ ทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงานของภาครัฐที่มีงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม ตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หลักๆมาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
ในขณะที่เป้าหมายการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการพัฒนาโครงการพลังงาน ทั้งโครงการลม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ กว่า 832 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศที่จะเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังมีส่วนของในงานมือ (Backlog) งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้งานในมือเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะมีการใช้เงินลงทุนในส่วนทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในทุกด้าน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี