เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผนึกกำลังครั้งสำคัญ เปิดตัว “CP-CG Day” ภายใต้หัวข้อ “Toward Excellence: The Next Era of CG” เพื่อยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาล (Corporate Governance - CG) ในทุกกลุ่มธุรกิจทั่วโลก โดยมีผู้บริหารระดับสูงและพนักงานจาก 21 ประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ พร้อมถ่ายทอดสดไปยังทุกสำนักงานทั่วโลก
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์และทิศทางของเครือฯ โดยเน้นย้ำว่า “ธรรมาภิบาลและความยั่งยืนเป็นเรื่องเดียวกัน” เพราะเป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเสนอ 5 หลักการสำคัญ ในการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้ CG เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่:
1. ความโปร่งใส – เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ และเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่น
2. มุมมองระยะยาว – การดำเนินธุรกิจต้องสร้างคุณค่าให้กับสังคมและผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน
3. ภาวะผู้นำ – ผู้นำที่ดีต้องมีคุณธรรม จริยธรรม และความสามารถในการปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง
4. นวัตกรรมและเทคโนโลยี – การใช้เทคโนโลยี เช่น AI และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสขององค์กร
5. Empowerment – การส่งเสริมให้บุคลากรในองค์กรมีบทบาทในการขับเคลื่อน CG ให้เกิดขึ้นจริงในทุกระดับ
“เครือซีพีและทุกบริษัทในเครือฯ ต้องร่วมกันปฏิรูปผ่าน 5 หลักการสำคัญนี้ เพื่อให้ CG เป็นมากกว่ากฎเกณฑ์ และยกระดับให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืน” นายศุภชัยกล่าว พร้อมตอกย้ำว่าการขับเคลื่อน CG และ ESG ไม่ใช่เพียงเป้าหมายขององค์กร แต่เป็นพันธกิจที่เราต้องทำให้เกิดขึ้นจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม”นายศุภชัยกล่าว
นางสาวเพียงพนอ บุญกล่ำ กรรมการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของบริษัทขนาดใหญ่ โดยกล่าวว่า “ไม่มีใครจะให้ความสำคัญกับ CG ได้มากไปกว่าคนในองค์กรเอง” การสร้างวัฒนธรรม CG ที่แข็งแกร่งต้องเริ่มจากภายในองค์กรก่อน เพื่อให้พนักงานเข้าใจและสามารถสื่อสารไปยังบุคคลภายนอกได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังเน้นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการ Subsidiary Governance หรือการกำกับดูแลบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กร “CG ในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของกฎระเบียบ แต่เป็นเรื่องของการสื่อสาร การมีส่วนร่วม และการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมทุกมิติขององค์กร”
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตอกย้ำแนวทางของซีอีโอ ซีพี โดยกล่าวเสริมว่า CG และความยั่งยืนเป็นเรื่องเดียวกัน และต้องกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร ไม่ใช่แค่ข้อบังคับ
ทั้งนี้เครือซีพีมุ่ง “เปลี่ยนจากการมี CG สู่การใช้ CG” ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. ฝัง CG เป็นวัฒนธรรมองค์กร – โปร่งใส มีภาวะผู้นำ ใช้เทคโนโลยี 2. ใช้ CG สร้างขีดความสามารถ – ลดความเสี่ยง ขับเคลื่อนนวัตกรรม 3. ยกระดับมาตรฐานต่อเนื่อง – จากมาตรฐานไทยสู่มาตรฐานโลก
“CG ที่แท้จริงคือการสร้างความโปร่งใส แข็งแกร่ง และยั่งยืน เครือซีพีต้องเป็นผู้นำ ไม่ใช่แค่ผู้ตาม” ดร.ธีระพลกล่าว
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ระบุว่า CG มีบทบาทสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน และเน้นย้ำว่า ESG เป็นพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ และเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันขององค์กรในระดับโลก
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า กลุ่มทรูให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาล (CG) และ ESG ในทุกมิติ ทรูไม่ได้มอง ESG เป็นเพียงแนวทาง แต่เป็นพันธกิจที่ต้องขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ผู้นำสูงสุดคือประธานกรรมการ บอร์ดบริหาร ไปจนถึงพนักงานทุกคน
นอกจากนี้ ซีอีโอ กลุ่มทรู ได้กล่าวต่อไปว่า “เราไม่ได้แค่ให้คนไทยเข้าถึงดิจิทัล แต่เรากำลังสร้างสังคมดิจิทัลที่เท่าเทียมและปลอดภัย” พร้อมระบุว่ากลุ่มทรูมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ขยายโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยี และส่งเสริมการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมรับมือกับอนาคต
นายมนัสส์ กล่าวว่า ในบทต่อไปของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทรูจะเป็นผู้นำด้าน Cyber Security สร้างความมั่นคงทางดิจิทัลให้กับประชาชนและประเทศ” พร้อมเน้นว่า CG ที่ดีไม่ได้เป็นเพียงหลักการบริหารองค์กร แต่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจและสังคมไทย
ขณะเดียวกัน นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สะท้อนแนวทางของเครือซีพี ว่า ธรรมาภิบาล (CG) ไม่ใช่แค่กรอบนโยบาย แต่ต้องถูกนำไปปฏิบัติจริง ท่ามกลางความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความซับซ้อนของซัพพลายเชน หรือความคาดหวังจากสังคมที่เพิ่มสูงขึ้น
นายเกรียงชัย กล่าวว่า ทั้งพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน CG ให้เกิดผลลัพธ์จริง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของซีอีโอที่เน้น การทำให้ธรรมาภิบาลเป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยการ เปลี่ยนจากคำพูดเป็นการลงมือทำ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสังคมและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในระยะยาว
ด้านนางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขับเคลื่อน CG ต้องเริ่มจากภายใน แม็คโครและโลตัสมีรากฐานด้านธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง แต่ความท้าทายคือ การส่งต่อ DNA นี้ไปยังพนักงานทุกระดับ ผ่านการเรียนรู้และสร้างวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังชี้ว่า CG ของเครือซีพีต้องไปไกลกว่าความคาดหวังของสังคม ไม่ใช่แค่ปฏิบัติตามมาตรฐาน แต่ต้อง ยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ ที่โปร่งใสและเป็นรูปธรรม พร้อมเน้นว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ จากภายในองค์กรสู่สังคม เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อแนวทาง CG ของเครือซีพี
“CP-CG Day” ที่เครือซีพี Kick off ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการผลักดันธรรมาภิบาลให้เป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจ เครือฯ เชื่อมั่นว่า CG ที่ดีไม่ใช่เพียงกฎเกณฑ์ แต่ต้องเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนยึดมั่นและปฏิบัติจริง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี