พี่น้อง! มาร์ค มาร์เกซ  แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม นำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัย “สปรินต์เรซ” เหนือคู่แข่งอย่าง “อเล็กซ์ มาร์เกซ” น้องชาย จาก เกรซินี เรซซิ่ง และทีมเมท “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกจากฮอนด้า ประเดิมเรซแรกด้วยผลงานน่าพอใจ ภายใต้เสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเกิด

ศึก โมโตจีพี 2025 ที่มาเปิดฤดูกาลที่ไทย ภายใต้ชื่อ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์  ผ่านการแข่งขัน “สปรินต์เรซ” ในบ่ายวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สนามช้างฯ เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ชิงชัยทั้งสิ้น 13 รอบสนาม ต่อหน้าแฟนความเร็วหลายหมื่นคน ที่หลั่งไหลเข้าสู่สนามอย่างหนาตา ไม่แพ้กับวันแข่งขัน

กริดสตาร์ตเรซนี้คับคั่งไปด้วยดาวบิดระดับแชมป์โลก โดยตำแหน่งโพลเป็นของ “มาร์ค มาร์เกซ” นักบิดสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม ขนาบข้างด้วย “อเล็กซ์ มาร์เกซ” น้องชายจาก เกรซินี เรซซิ่ง ในกริดที่ 2 และ “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” นักบิดอิตาเลียนจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม ในกริดที่ 3 ส่วน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรก ในประวัติศาสตร์จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 21

ผลการแข่งขันเรซนี้ ไม่มีความพลิกผัน เมื่อกลุ่มตัวเต็งในแถวหน้าเริ่มเกมได้ดีและยืนระยะได้อย่างเหนียวแน่น โดยชัยชนะตกเป็นของ มาร์ค มาร์เกซ ที่ออกนำม้วนเดียวจบ เหนือ อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายที่ตามเข้าป้ายอันดับ 2  และอันดับ 3 ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า

ขณะที่ “ไอ โอกูระ” นักบิดรุกกี้ชาวญี่ปุ่น จาก แทร็คเฮาส์ เรซซิ่ง สร้างเซอไพรส์อย่างมาก หลังออกตัวจากกริดที่ 5  และไล่บดกับ บันยาญ่า  ตลอดทั้งเรซ  ก่อนบิดคว้าอันดับ 4 มาครอง โดยตามหลังผู้ชนะเพียง 4.392 วินาที ตามด้วย “ฟรานโก มอร์บิเดลลี” นักบิดอิตาเลียนจาก เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา วีอาร์46 เรซซิ่ง และ “เปโดร อคอสต้า” นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง ในอันดับ 5 และ 6

ส่วนอันดับ 7 ตกเป็นของ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร” นักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ตามด้วย “แบรด บินเดอร์” นักบิดแอปริกาใต้จาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง และ “โจอัน เมียร์” นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี คาสตรอล ในอันดับ 8 และ 9

ด้าน “ก้อง-สมเกียรติ” ประเดิมการแข่งขัน “สปรินต์ เรซ” ครั้งแรกด้วยผลงานน่าพอใจ หลังทะยานจากกริดที่ 21 ไล่แซงขึ้นมาถึงอันดับ 19 ก่อนจะพลาดเสียจังหวะในโค้ง 3 แต่ก็ไล่ตีตื้นเข้าหากลุ่มหลังได้ และบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 19 โดยเจ้าตัวเผยว่า ทีมค่อนข้างพอใจกับการทำงานในวันแรกอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในรุ่นอื่นๆ โดย มานูเอล กอนซาเลซ นักบิดสแปนิชจาก ลิควิ โมลี ไดนาโวลต์ อินแท็คต์ จีพี คว้าโพลในรุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปียนชิพ ไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.634 วินาที เฉือน เชเลสติโน วิเอ็ตติ นักบิดอิตาเลียนจาก ทีม เอชดีอาร์ ไฮด์รัน อันดับ 2 เพียง 0.036 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 ได้แก่ แอรอน คาเน็ต หนึ่งในเต็งแชมป์โลกชาวสแปนิชจาก ฟานติค เรซซิ่ง ลิโน โวเกโก้ ตามหลัง 0.205 วินาที

ในรุ่นเล็กอย่าง โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ นักบิดไทย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย บิดคว้ากริดที่ 17 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.526 วินาที ตามหลังเจ้าของโพลอย่าง มัตเตโอ เบอร์เดลลี นักบิดดาวรุ่งชาวอิตาเลียนจาก เลเวลอัพ-เอ็มทีเอ เพียง 1.126 วินาที ส่วนกริดที่ 2 และ 3 ได้แก่ สเตฟาโน เนปา เพื่อนร่วมชาติจาก ซิค58  สควอดร้า คอร์เซ และ โฮเซ รูเอด้า ดาวรุ่งสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม อาโย ตามลำดับ

สำหรับแฟนความเร็วซื้อบัตรได้ที่ บูธ All Ticket บริเวณทางเข้าประตู 1 และ ประตู 2 สนามช้างฯ ส่วนแฟนๆ ที่อยากชมเฉพาะคอนเสิร์ตและร่วมงานส่วนของลานกิจกรรม โดยไม่ชมการแข่งขัน สามารถซื้อบัตร Admission ได้ที่บูธ All Ticket หน้างาน ราคา 100 บาท/วัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท

ทั้งนี้ ศึก พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2025  จะดวลความเร็วรอบ “เมน กรังด์ปรีซ์”  ในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้  เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 12.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 13.15 น. และปิดท้ายด้วยรุ่นใหญ่  อย่าง โมโตจีพี เวลา 15.00 น. แฟนความเร็วรับชมผ่านช่องทาง แอปพลิเคชั่น TrueVisions Now และชมถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง True4U ได้ในวันที่ 2 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป