นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับ 112.1 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (YoY) สูงขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกัน โดยมีปัจจัยจากต้นทุนค่าขนส่งและราคาวัตถุดิบสูงขึ้นในหลายหมวดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 0.9 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ไม้พื้น ไม้แบบ แผ่นไม้อัด และวงกบประตู หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.5 จากสินค้าเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก บ่อพักคอนกรีตสำเร็จรูป และคอนกรีตผสมเสร็จ จากปัจจัยราคาน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าปีที่ผ่านมาทำให้ต้นทุนค่าขนส่งของสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ปรับราคาสูงขึ้น หมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้นร้อยละ 1.3 จากสินค้าสีทาถนนชนิดสะท้อนแสง และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นร้อยละ 7.2 จากสินค้ายางมะตอย
โดยสินค้าสำคัญของทั้งสองหมวดสูงขึ้นจากต้นทุนปิโตรเลียมที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปรับราคาสูงขึ้น รวมทั้งมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างด้านคมนาคมของภาครัฐ และการซ่อมแซมถนนหลังเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ก่อนหน้านี้ หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 2.2 จากสายส่งกำลังไฟฟ้า NYY สายไฟฟ้า VCT ถังดักไขมัน และถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ทองแดง เม็ดพลาสติก) ที่ปรับราคาตามตลาดโลก รวมทั้งมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น สำหรับหมวดสินค้าสำคัญ ที่ดัชนีราคาลดลง ได้แก่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 3.2 จากการลดลงของสินค้าเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ เหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย และลวดเหล็กเสริมคอนกรีตอัดแรง
ทั้งนี้ จากราคาเหล็กในตลาดโลกและในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยืดเยื้อ แม้ว่าจีนจะออกมาตรการเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาแล้วก็ตาม หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 1.5 จากการลดลงของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จรูป เนื่องจากต้นทุนการผลิตลดลงจากราคาถ่านหินปรับลดลงโดยมีสาเหตุจากการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดทดแทนมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินลดลง ประกอบกับมีการแข่งขันในธุรกิจซีเมนต์สูงมาก
นอกจากนี้ ขณะที่ผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ภาคเอกชนชะลอการลงทุนในโครงการใหม่ เนื่องจากมีสต็อกอสังหาริมทรัพย์คงค้างสูง จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน สาเหตุจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงและหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาหมวดกระเบื้อง ลดลงร้อยละ 1.3 ลดลงจากสินค้ากระเบื้องเคลือบบุผนัง กระเบื้องเคลือบปูพื้น เป็นต้น และหมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 2.0 จากสินค้าโถส้วมชักโครก กระจกเงา และราวจับสแตนเลส
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนมีนาคม 2568 ยังมีทิศทางขยายตัว อย่างต่อเนื่องจากปัจจัยบวกต่าง ๆ เช่น 1) การปรับลดของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะช่วยให้การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน และกำลังซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคมีแนวโน้มฟื้นตัว 2) นโยบายทางเศรษฐกิจและมาตรการภาษีที่เข้มงวดของสหรัฐอเมริกาที่จะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น เช่น เหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง ซึ่งมีความผันผวนสูงและมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้น และ 3) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันและราคาพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวล้วนส่งผลต่อต้นทุนราคาสินค้าและค่าขนส่ง ซึ่งจะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี