นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับ 100.55 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพิ่มขึ้น 1.08% เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และสูงขึ้นเกิน 1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
โดยมีปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารสำเร็จรูป ประกอบกับมีการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าโดยสารเครื่องบิน สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก และหากรวมเงินเฟ้อช่วง 2 เดือนแรกปี 2567 เพิ่มขึ้น 1.2%
สำหรับรายละเอียดเงินเฟ้อที่สูงขึ้น 1.08% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 2.03% โดยสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น เช่น กลุ่มผลไม้สด (กล้วยน้ำว้า ฝรั่ง แตงโม สับปะรด) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (ปลานิล กุ้งขาว เนื้อสุกร ปลาทูนึ่ง ปลาหมึกกล้วย ปลาทู) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง กะทิสำเร็จรูป) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) และกลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม (นมสด ไข่เป็ด) อย่างไรก็ตามมีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสดบางชนิด (มะนาว พริกสด ผักคะน้า มะเขือ ผักชี ผักกาดขาว) ผลไม้บางชนิด (องุ่น แก้วมังกร) ไก่ย่าง/ไก่ทอด และซีอิ๊ว เป็นต้น
ส่วนหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 0.40% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน (ต่างประเทศ) ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ แก๊สโซฮอล์ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว น้ำยาระงับกลิ่นกาย แป้งผัดหน้า) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า (กางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี) เป็นต้น
ในขณะที่ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.99% เร่งตัวขึ้นจากเดือนมกราคม 2568 ที่สูงขึ้น 0.83% และรวม 2 เดือนแรกปี 2568 เพิ่มขึ้น 1.20%
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2568 ใกล้เคียงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่ 29.92 บาทต่อลิตร การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และวัตถุดิบต้นน้ำของสินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะพืชสวน เช่น กาแฟ ปาล์มน้ำมัน และมะพร้าว ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ขั้นกลางหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้น เช่น กาแฟ น้ำมันพืช และกะทิ เป็นต้น
ทั้งนี้เงินเฟ้อไตรมาสแรกปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1-1.2% เพราะฐานปี 2567 ต่ำ ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% เพราะฐานปี 2567 เริ่มขยับสูงขึ้น ส่วนทั้งปี 2568 ยังอยู่ในเป้าหมายเดิม 0.3-1.3% ค่ากลาง 0.8%
อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลง เช่น การลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกซึ่งต่ำกว่าปี 2567 และคาดว่าจะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลง ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ฐานราคาผักสดในปี 2567 อยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี