นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง ศูนย์ Government All-Service Center บนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตและทำธุรกรรมกับภาครัฐ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการอนุมัติและอนุญาตต่างๆ ให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจใหม่ และศูนย์ฯ จะมีส่วนผลักดันให้เกิดการลงทุน เพื่อให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน ถือเป็นก้าวสำคัญในการให้บริการสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้ามาติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ลงทุน จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ในปี 2568 เชื่อมั่นว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับ โดยเฉพาะ การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มธุรกิจคุณภาพสูง เช่นในกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ในด้านต่างๆ ให้กับคนไทยมากยิ่งขึ้น แม้ว่าบนสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในปัจจุบัน ที่หลายฝ่ายกังวลมองเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มองว่าเป็นโอกาส และเป็นจังหวะที่สำคัญ ที่เราต้องดึงการลงทุน เข้ามาในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพแรงงานของไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากสามารถสร้าง ดังนั้นการเลือกบริษัทที่ดี และมีคุณภาพเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ มั่นใจว่า เราจะเป็นฐานการผลิตในระยะยาวต่อไป อีก 20-30 ปี นับเป็นความท้าท้ายในด้านการขับเคลื่อนนโยบายการลงทุน ที่จะผลักดันให้ไทยเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค

ด้านนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์นี้เป็นการยกระดับการให้บริการในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศ ศูนย์นี้จะช่วยให้การติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนของขั้นตอนต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุคใหม่ ที่เน้นความคล่องตัวและความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล