นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับ 100.55 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเท่ากับ 99.48 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 1.08% (YoY) ปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องประกอบอาหารเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารสำเร็จรูป ประกอบกับมีการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าโดยสารเครื่องบิน สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้น 1.08% มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 2.03% (YoY)จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลไม้สด (กล้วยน้ำว้า ฝรั่ง แตงโม สับปะรด) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป(ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด)น้ำพริกแกง กะทิสำเร็จรูป) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) และกลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม (นมสด ไข่เป็ด)
อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสดบางชนิด (มะนาว พริกสด ผักคะน้ามะเขือ ผักชี ผักกาดขาว) ผลไม้บางชนิด (องุ่น แก้วมังกร)ไก่ย่าง/ไก่ทอด และซีอิ๊ว เป็นต้น
หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.40% (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน (ต่างประเทศ)
ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ แก๊สโซฮอล์ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัวผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว น้ำยาระงับกลิ่นกาย แป้งผัดหน้า) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า เป็นต้น
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้น 0.99% (YoY)เร่งตัวขึ้นจากเดือนมกราคม 2568 ที่สูงขึ้น 0.83% (YoY)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2568เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2568 ลดลง 0.02% (MoM)ตามการลดลงของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 0.08 (MoM)% ปรับลดลงตามราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักสด (ผักบุ้ง มะเขือต้นหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว) เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้นประกอบกับข้าวสารเจ้า ไข่ไก่ และอาหารโทรสั่งปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม มีสินค้าอีกหลายรายการที่ราคาสูงขึ้น อาทิ เนื้อสุกร น้ำมันพืช ส้มเขียวหวาน กับข้าวสำเร็จรูป และกาแฟผงสำเร็จรูป ขณะที่หมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.01% (MoM) ตามการสูงขึ้นของค่าโดยสารรถสาธารณะ โดยเฉพาะค่าโดยสารรถประจำทาง และค่าโดยสารรถไฟลอยฟ้าและใต้ดิน เนื่องจากมาตรการใช้ระบบขนส่งสาธารณะฟรีของภาครัฐสิ้นสุดลง ทำให้ค่าโดยสารกลับเข้าสู่อัตราปกติ นอกจากนี้ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าเช่าบ้าน และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้าน้ำยาล้างจาน) ปรับสูงขึ้นเช่นกัน
สินค้าที่ราคาปรับลดลง อาทิ แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันเบนซิน ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด (กระติกน้ำร้อน ตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ) จากการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 2 เดือน (มกราคม-กุมภาพันธ์) ของปี 2568 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 สูงขึ้น 1.20% (AoA)
แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมีนาคม 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย (1) ราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร โดยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 29.92 บาทต่อลิตร(2) การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และ (3) วัตถุดิบต้นน้ำของสินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะพืชสวน เช่น กาแฟ ปาล์มน้ำมัน และมะพร้าว ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ขั้นกลางหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้น เช่น กาแฟ น้ำมันพืชและกะทิ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ประกอบด้วย (1) การลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้า และคาดว่าจะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน (2) ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง (3) ฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และ (4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี