nn หลังจากมีข่าวว่าเด็กไทยอายุน้อยมาก (ประมาณ 10-12 ขวบ) ป่วยหนักเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้า (แบบน้ำ) รัฐบาลก็เต้นรับ โดยการสั่งลงดาบปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าใน 30 วัน ! เราจะได้เห็นกันสักทีว่าถ้าไทยเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการแบนจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ที่บอกว่าแบนแล้วแต่ยังมีคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ทั่วไป ซึ่งนั่นก็เพราะเราไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างรัดกุมเพียงพอใช่หรือไม่ ???... และผ่านมาเกือบสัปดาห์...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ก็ยังเห็นคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ทั่วไป ร้านออนไลน์ก็ยังขายอยู่ เพียงแต่ปรับวิธีส่งของเท่านั้น ไม่รู้ว่า 30 วันที่ท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ตั้งความหวังไว้ จะเป็นแค่ผักชีโรยหน้าสร้างผลงานชั่วคราวหรือเปล่า
นอกจากบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังมีบุหรี่เถื่อนที่สถานการณ์ย่ำแย่ไม่ต่างกัน แต่กลับกลายเป็นสินค้าที่ถูกลืม! แผงขายบุหรี่ไฟฟ้าหายไปแต่แผงขายบุหรี่เถื่อนยังเปิดขายกันโจ๋งครึ่มเต็มเมือง เพราะรัฐบาลมัวแต่โฟกัสกับการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าจนลืมไปว่าบุหรี่เถื่อนที่มีอยู่ 25% ในตลาดนี่แหละ ที่กำลังมอมเมาเยาวชน เพราะราคาถูกซื้อง่าย ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ภาพคำเตือนบนซองก็ไม่ต้องมี เป็นอันตรายเสียยิ่งกว่าบุหรี่ไฟฟ้าอีก
รู้หรือไม่มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านเรามีอัตราการบริโภคบุหรี่เถื่อนสูงถึง 56% ถ้าไทยยังละเลย ไม่จริงจังกับการหาวิธีที่จะหยุดบุหรี่เถื่อนอย่างยั่งยืน อนาคตเราคงอยู่ในจุดเดียวกับมาเลเซียแน่นอน! ทุกวันนี้ สงขลา หาดใหญ่ และจังหวัดชายแดนใต้ ไม่สูบบุหรี่ที่มีแสตมป์ของประเทศไทยกันแล้ว บุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง มีขายทุกมุม ชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้เช่นเคย
แค่ 25% ยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 28,000 ล้านบาท โดย 22,000 ล้านบาท เป็นรายได้ภาษีที่รัฐไม่สามารถจัดเก็บได้ และอีก 6,000 ล้านบาทเป็นรายได้ของภาคส่วนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมยาสูบไทย คนที่ควรเดือดร้อนที่สุดเรื่องนี้คือกรมสรรพสามิต เพราะรายได้จากภาษียาสูบหายไปเยอะ
สภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN Business Council : EU-ABC) บอกว่าประเทศไทยมีการบริโภค“บุหรี่เถื่อน”ซึ่งตอนนี้สูง 25% ของการบริโภคบุหรี่ทั้งหมดในประเทศ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดนับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เพราะว่าประเทศไทยมีช่องโหว่หลายจุดที่ทำให้บุหรี่เถื่อนทะลักเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เช่นว่าเมื่อสินค้าผ่านแดนเข้ามาพักในคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อรอส่งออกเจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบสุดท้ายสินค้านั้นก็ไหลกลับเข้ามา...เอกสารส่งออกก็มักจะระบุเป็นบริษัทตัวแทนซื้อขาย แต่ไม่มีการระบุจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของสินค้าซึ่งถูกลักลอบนำเข้ามาเพื่อการบริโภค...ที่สำคัญและเป็นโจทย์ใหญ่ก็คือการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ...ฯลฯ
เมื่อเร็วๆ นี้ตัวแทนจาก EU-ABC ก็ได้เข้าพบกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายท่าน...ซึ่งก็มีการนำเสนอเรื่องนี้เหมือนกัน..แต่ดูเหมือนไม่มีเสียงตอบรับจากนายกรัฐมนตรีของไทยมีแต่ รมว.ต่างประเทศที่บอกว่าเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน...!! ปัญหาบุหรี่เถื่อน...ทุกชาติในอาเซียนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาดังนั้นในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะมาถึงเร็วๆ นี้...นายกรัฐมนตรีของไทยน่าแสดงความกล้าหาญเรียกร้องชาติสมาชิกอาเซียนร่วมมือกันแก้ปัญหานี้..
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี