กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คัดเลือกผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร 22 ราย ร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ยกระดับศักยภาพด้านการตลาดของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอาหารจากธรรมชาติเป็นยาอายุวัฒนะ สร้างภาพลักษณ์สมุนไพรไทย พร้อมขยายโอกาสทางการค้าให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยติดเทรนด์คนรักสุขภาพ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั้งในรูปแบบอาหาร อาหารเสริม ยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สปาเพิ่มมากขึ้นประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยเฉพาะในตลาดที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรสูง เช่น เอเชีย และยุโรป โดยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสมุนไพรโลกต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพทางการแข่งขันของสมุนไพรไทยในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เล็งเห็นช่องทางในการยกระดับและขยายโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ SMEs จึงเปิดรับสมัครผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหารและเครื่องดื่มที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีคุณค่าและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร 2568 (THAIFEX-ANUGA ASIA 2025) โดยมีผู้ประกอบการสมุนไพรจากทั่วประเทศสนใจสมัครเข้าร่วมคัดสรรจำนวน 132 ราย ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์และการคัดเลือกใน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) ความสอดคล้องตามหลักการ SMART Local 2) การใช้นวัตกรรมในการผลิต 3) ผลิตภัณฑ์สามารถนำเสนอจุดเด่นและคุณค่าของสมุนไพร 4) โอกาสในการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ และ 5) ศักยภาพโดยรวมของการประกอบธุรกิจ ที่จะเข้าร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ในโซนอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 22 ราย
ทั้งนี้ กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร (THAIFEX-ANUGA ASIA) เพื่อสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตลอดจนผลักดันคุณค่าของสมุนไพรไทยร่วมกับอาหารและวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งขยายช่องทางการตลาดเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ มาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 3 ปี โดยผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบที่ได้เข้าร่วมงานมีกระแสตอบรับอย่างดีจากนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดแรงผลักดันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีคุณค่าและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตอกย้ำจุดแข็งความได้เปรียบด้านความหลากหลายของสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพให้เด่นชัดและความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างดี
อย่างไรก็ตามในปี 2568 กรมฯ ตั้งเป้าสร้างยอดเจรจาธุรกิจให้เกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท การยกระดับสมุนไพรท้องถิ่นสู่ “SMART Local Herb” เป็นการผสมผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะปลูก การแปรรูป การตลาด ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพของสมุนไพรไทยในตลาดโลก การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสมุนไพรของโลกจะช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น อธิบดีอรมน กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้จาก Facebook Fan Page : DBD Smart Local สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี