นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 4 – 7 มีนาคม 2568 ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ได้แก่ GAC Group, BYD และ Huawei โดยชูจุดแข็งด้านยุทธศาสตร์ของไทย พร้อมส่งเสริมการลงทุน เพื่อไทยก้าวสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ พร้อมเน้นย้ำให้บริษัทฯ มุ่งการพัฒนา Supply Chain ของไทย และยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก
ทั้งนี้ในการหารือร่วมกับ GAC Group ได้ยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมมือกับ GAC Group โดยได้นำคณะผู้ดูแลนโยบายด้านยานยนต์เข้าร่วมหารือ เพื่อผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับ GAC Group และเชื่อมั่นว่า การลงทุนในไทยเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เนื่องจากไทยมีจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับตลาดเอเชียและส่งออกไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่ง GAC Group มีโรงงานตั้งอยู่ (นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง) รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ EV ในภูมิภาค
ส่วนการประชุมหารือร่วมกับ บริษัท BYD Auto Industry Co., Ltd. กระทรวงอุตฯยืนยันว่านโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานใหม่ของรัฐบาล และแสดงความเชื่อมั่นว่า BYD จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสถานการณ์โลกเอื้ออำนวยให้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน BYD ในด้านต่าง ๆแต่ขณะเดียวกันก็ต้องการให้BYD ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในด้านต่างๆของไทย อาทิเช่น การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาธุรกิจ และการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยมุ่งเน้นการร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
“ผมรับปากว่าจะหารือเรื่องมาตรการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้า หรือ 'ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” นายเอกนัฏ กล่าว
ขณะที่การเข้าพบหารือกับ บริษัท Huawei Technologies Co., Ltd. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชื่นชมการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆของบริษัทฯ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของไทย เช่น ระบบ 5G AI Robotics และGreen Energy เพื่อสนองต่อนโยบาย BCG และความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยย้ำว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุน Huawei ในการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ และการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อสร้างบุคลากรรองรับในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมีการส่งเสริมมาตรการภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่างชาติ ในส่วนของการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีการลดภาษีสรรพสามิต 4% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการลงทุน และมาตรการนี้จะหมดลงในปี 2025 กระทรวงฯจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ยืนยันว่าการส่งเสริมการลงทุนจะไม่ใช่แค่เรื่องของภาษี แต่รวมถึงการพัฒนาบุคลากร และซัพพลายเชนในประเทศในประเทศไทยให้แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกระทรวงฯ ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการ รวมถึงเรื่องของการปรับนโยบายภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและช่วยให้บริษัทต่างชาติประสบความสำเร็จในการลงทุนในประเทศไทย
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ.รักษาการผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.พร้อมสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยในพื้นที่กลุ่มจังหวัด Eastern Economic Corridor (EEC) เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลให้การส่งเสริมมาตรการภาษีและการลงทุน โดยบริษัทเช่น GAC Group และ BYD ได้ตั้งโรงงานในพื้นที่นี้อยู่แล้ว โดย GAC Group ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง และ BYD ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอ ระยอง ขณะเดียวกันก็มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่EEC เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ กนอ.ได้ส่งเสริมเทคโนโลยี และ Green Energy โดยการใช้เทคโนโลยี AI, 5G, และ Green Energy เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมและสนับสนุนนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน รมทั้งส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรม เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี