นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI
เปิดเผยว่า แสนสิริมีแผนรุกตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2568 โดยจะเดินหน้าเปิดตัวโปรเจกท์ใหม่ รวม 15 โครงการ มูลค่ารวม 20,400 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกจะเปิดตัว 8 คอนโดฯ ใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจตามคีย์ ไดร์เวอร์ ที่สำคัญ ได้แก่ การเร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ
เพื่อเพิ่ม Backlog สนับสนุนการสร้างรายได้ระยะยาวและเติมเต็ม Portfolio ของแสนสิริให้แข็งแกร่งขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ในไตรมาสแรกแสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการ “ดีคอนโด คีรี” คอนโดฯ ใหม่ สไตล์รีสอร์ท ตกแต่งแบบ Fully Furnished ราคาเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท * โดดเด่นด้วยโลเกชั่นใจกลางจรัญฯ-ปิ่นเกล้า ใกล้ศิริราชและ MRT สถานีบางขุนนนท์ เตรียมต่อยอดความสำเร็จเป็นโครงการที่ 3 จากดีคอนโดธารและดีคอนโด พนา เปิดชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้ที่ Sale Gallery, “เดอะ เบส รัชดา 19” คอนโดใหม่ใจกลางย่านรัชดา เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท , โครงการ “ดีคอนโดวิวิด รังสิต” คอนโดฯใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ บนแสนสิริคอมมูนิตี้ เริ่มเพียง 1.49 ล้านบาท และ เตรียมพรีเซลส์ 15 - 16 มีนาคมนี้ และเปิดตัว“เดอะ มูฟ ประดิพัทธ์” คอนโดใหม่พร้อมอยู่ แต่งครบ บนทำเลใจกลางเมือง เริ่มเพียง 2.69 ล้านบาท เปิดชมตึกจริง ห้องจริงแล้ววันนี้ Grand opening 29 - 30 มี.ค.นี้

นอกจากนี้แสนสิริยังได้เดินหน้า Strategic Locations ขยายการพัฒนาโครงการไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่นเพื่อคว้าโอกาสจากความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นโดยในไตรมาสแรกนี้ เปิดตัวโครงการ “เดอะ เบสเชิงทะเล” ที่กวาดยอดขาย 70% ในวันพรีเซลส์เริ่มเพียง 3.19 ล้านบาท พร้อมสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับ “ดีคอนโด” ตัวแรกใน จ.ขอนแก่น ราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาทที่กวาดยอดพรีเซลส์กว่า 400 ล้านบาทใน 2 วัน

นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนรุก Strategic Locations ทำเล “พัทยา” แสนสิริมั่นใจในดีมานด์ชาวไทยและต่างชาติที่ยังคงมีต่อเนื่อง จากการที่พัทยายังคงเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (รองจากกรุงเทพฯ) เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ใกล้สนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้าความเร็วสูง และ EEC โดยล่าสุดปี 2567 พัทยามีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง22 - 23 ล้านคน เติบโตจากปี 2562 หรือช่วงก่อนการเกิดสถานการณ์โควิดขึ้นเกือบ 60% โรงแรมในพัทยามี occupancy rate สูงถึง 85-90% ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งหลายแบรนด์โรงแรมชั้นนำยังมีแผนทยอยเปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาระยะยาวจนถึงอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย ส่งผลถึงความต้องการที่พักอาศัยและบ้านพักตากอากาศ รวมถึงคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะในทำเลติดชายหาด หรือสามารถมองเห็นวิวชายหาดได้ ทั้งนี้ล่าสุด แสนสิริประสบความสำเร็จ จากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด

ทั้งนี้จากการเปิดตัว “PTY Residence Sai 1” (พีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1) บีชฟร้อนท์คอนโดมิเนียม ใหม่ล่าสุด ที่สุดแห่งความภูมิใจกับหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีชในรอบ 10 ปีบนถนนเลียบหาด หรือพัทยา สาย 1 (พัทยากลาง)Rare item บนที่ดิน Freehold ผืนสุดท้ายของพัทยาสาย 1 ที่หาไม่ได้อีกแล้ว จากรอบเปิดจอง “Global Online Booking” ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติสามารถจองคอนโดฯ ริมหาดได้จากทุกมุมโลก ส่งผลให้มียอดจองเต็มโควตาตลาดต่างชาติ สะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ และศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยา โดย concierge service ขนาด 1 ห้องนอน เริ่ม 6.99 ล้านบาท และ 2 ห้องนอนเริ่ม 19.9 - 30 ล้านบาท แสนสิริมั่นใจว่า โครงการ PTY Residence Sai 1 จะเป็นอีกหนึ่งโครงการของแสนสิริในทำเลพัทยา ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจากโครงการแรกเมื่อ10 ปีก่อน อาทิ โครงการบ้านปลายหาด พัทยา, เอดจ์เซ็นทรัล พัทยา, เดอะ เบส พัทยากลาง และเวย์ โพธิสาร พัทยา 2 โครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวลูกค้าชาวไทยเตรียมตัวจองพร้อมกันในงาน Exclusive Presale วันที่ 29 - 30 มีนาคมนี้ ที่โรงแรมฮิลตัน พัทยา