นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทฯ เดินเกมรุกธุรกิจใหม่ (New S-curve) ที่มีมาร์จิ้น และมีอัตราการเติบโตสูง สร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ ภายใต้การต่อยอดกลุ่มธุรกิจ New S-curve โดยเฉพาะธุรกิจ Healthcare อย่างกลุ่มงานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม และ กลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ทั้งนี้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มบรรจุภัณฑ์ 2. กลุ่มงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ และ 3. กลุ่มธุรกิจ Healthcare
อย่างไรก็ตาม และด้วยแผนการวางกลยุทธ์บุกธุรกิจ New S-curve ส่งผลให้บริษัทฯ ประเมินภาพรวมการดำเนินงานในปีนี้ มีทิศทางเติบโตเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ คาดการอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 20-23% ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจ New S-curve อย่างกลุ่มธุรกิจ Healthcare ประกอบด้วย 2 กลุ่มธุรกิจให้บริการ คือกลุ่มงานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ โดยทั้ง 2 กลุ่มงานดังกล่าว จะเข้ามาเริ่มสร้างรายได้ให้บริษัทฯ โดยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด และคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2569 ส่งผลให้ในอนาคตสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ประมาณการสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Healthcare ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 20-25% และในปี 2569 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม เนื่องจาก บริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ เช่น Oxygen Humidifier, สายยางสำหรับผู้ป่วยฟอกไตและถุงน้ำยาล้างไตผ่านหน้าท้อง เป็นต้น
นอกจากนี้ในส่วนกลุ่มงานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม นายวิวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มงานดังกล่าวในปีนี้ 20% เนื่องจากดีมานด์ในกลุ่มงานนี้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาล ยังคงเติบโต เนื่องจากการซักรีดเพื่อฆ่าเชื้ออย่างถูกสุขลักษณะเป็นสิ่งจำเป็นในสถานพยาบาล ดังนั้นการให้บริการซักผ้าอุตสาหกรรมจึงมีดีมานด์ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักมาจากโรงพยาบาลของ PJW ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล, โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) และโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การปรับ Portfolio สู่ธุรกิจใหม่ จาก New S-curve ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ เป็นประมาณ 20% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เติบโต 20-23% และคาดว่าจะปรับเพิ่มสูงในปีต่อไป ซึ่งเป็นผลจากสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Healthcare ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ จะมีเสถียรภาพความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2569 บริษัทฯ ยังเตรียมนำสินค้ากลุ่ม Healthcare เจาะตลาดใน ASEAN มากขึ้นด้วย ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ยังเป็นธุรกิจ Cash cow ที่ยังทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอมีการเติบโตต่อเนื่อง
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี