“เอกนัฏ” ไม่ปล่อยผ่านเหล็กตกเกรด ส่ง “ทีมสุดซอย” เหล็กข้ออ้อยกว่า 230 ตัน มูลค่า 4.6 ล้านบาท ชี้แม้ไม่ส่งผลต่อความปลอดภัย แต่ต้องควบคุมให้ได้มาตรฐานทุกล็อต “ฐิติภัสร์” เผย สมอ.สั่งเรียกคืนที่จำหน่ายในท้องตลาดด้วย หากยังนิ่งดำเนินคดีซ้ำอีก
วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานว่ามีการนำเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และเหล็กข้ออ้อย ที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายในท้องตลาด จึงได้ส่งทีมตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นายสุนัย พิริยสกุลพัฒน์ อุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว พบว่ามีการผลิตเหล็กข้ออ้อยที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จึงได้ดำเนินการยึดอายัดเหล็กดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
“เหล็กข้ออ้อยที่ตรวจพบ ตกเกณฑ์มาตรฐานในรายการความยาว แม้จะไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค แต่ถือว่าไม่ควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ จึงได้สั่งการให้ทีมสุดซอยฯ เข้าตรวตยึดอายัดเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 230 ตัน มูลค่าราว 4.6 ล้านบาท และให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศที่ผลิตเหล็กได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศ” นายเอกนัฏ ระบุ
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ดังกล่าวได้รับใบอนุญาตทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจาก สมอ. จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ เหล็กเส้นกลม มอก. 20-2559, เหล็กข้ออ้อย มอก. 24-2559 ชั้นคุณภาพ SD 40 ซึ่งจากการตรวจสอบในวันนี้ พบว่า มีเหล็กข้ออ้อย ขนาด DB 20 ชั้นคุณภาพ SD 40 ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ในรายการความยาว โดยมีขนาดสั้นกว่าที่มาตรฐานกำหนด ประมาณ 15-30 มิลลิเมตร ซึ่งการกำหนดเกณฑ์ความยาวในมาตรฐาน เป็นการคุ้มครองให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ตรงตามการแสดงเครื่องหมายและฉลากของผู้ผลิต สมอ. จึงได้อายัดเหล็กข้ออ้อย ความยาว 10 เมตร จำนวน 9,320 เส้น น้ำหนักประมาณ 230 ตัน มูลค่าประมาณ 4.6 ล้านบาท รวมทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรายนี้ให้ถึงที่สุด โทษฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งสั่งให้บริษัทเรียกคืนเหล็กที่จำหน่ายออกไปแล้วกลับคืนมา หากไม่ดำเนินการ สมอ. ก็จะตามยึดอายัดที่วางจำหน่ายในท้องตลาดและดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนนี้ด้วย
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า บริษัทแห่งนี้ จะถูกดำเนินคดีความผิดฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานจำหน่ายสินค้า ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงงานยังปฏิบัติในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมไม่ครบถ้วน อุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้วจึงมีคำสั่งให้บริษัทแห่งนี้ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครบถ้วน โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 หากไม่ปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดจะยกระดับคำสั่งที่เข้มข้นขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี