นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ซึ่งจำเป็นต้องผลักดันให้การส่งออกปีนี้ เติบโตในระดับ 4% โดยมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่ต้องทำงานกันอย่างหนัก และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
ทั้งนี้ ได้มอบหมายสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศของไทยทั้ง 58 แห่งทั่วโลก ให้พิจารณาหาผู้ประกอบการ และผู้นำเข้ารายใหม่ ๆ เพื่อช่วยขยายตลาดส่งออกของไทย โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาส เช่น ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ที่ยังมีโอกาสอีกมาก
"ผู้ประกอบการไทย ก็ต้องพร้อมหาตลาดใหม่ ๆ ไปกับกระทรวงพาณิชย์ด้วย ขณะเดียวกัน ตลาดเก่าก็ยังต้องรักษาไว้ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ในหลายด้าน" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศ มีการเปลี่ยนโฉม มีการพลิกรูปแบบการค้า การที่ผู้ประกอบการของไทยจะไปแข่งขันในตลาดโลกได้นั้น จึงจำเป็นต้องติดอาวุธ ต้องเรียนรู้ว่าตลาดมีความต้องการอะไรใหม่บ้าง คู่แข่งเป็นอย่างไร โดยกรมฯ มีหลักสูตรช่วยผู้ประกอบการมากกว่า 100 หลักสูตร ที่สามารถเรียนได้ทั้งผ่านออนไลน์ และออนไซต์ ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้เรียนออนไซต์มากกว่า 8,000 ราย และเรียนออนไลน์กว่า 25,000 ราย
ทั้งนี้ กรมฯ เป็นหน่วยงานแนวหน้าอยู่ในสมรภูมิการค้าเป็นหน่วยงานแรก ๆ ดังนั้น คาดว่าการที่กรมฯ เปลี่ยนแปลง และรีแบรนด์การทำงาน จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนไป
"การค้าระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เราติดอาวุธเพิ่มเติม ขยายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งหน่วยงานราชการในระดับกระทรวง และหน่วยงานเอกชน ทั้งสภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ และส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ปีนี้ จะบุกเบิกการทำงานร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัดให้มากขึ้น ค้นหาช้างเผือก โดยพบว่าผู้ประกอบการไทยในแต่ละจังหวัดเก่งมาก สามารถสร้างนวัตกรรมได้ด้วยตนเอง มีความรู้มีภูมิปัญญาในพื้นที่ มีไอเดีย ออกแบบสร้างสรรค์สูงมาก นอกจากนี้ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงให้เข้มข้นมากขึ้นด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ" น.ส.สุนันทา กล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ น.ส.สุนันทา กล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย แต่นโยบายการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่นิ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ขณะนี้ คือการเตรียมพร้อม ปรับตัว และรอดูการประกาศนโยบายที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร เพราะยังยากที่จะคาดเดาได้ล่วงหน้า
"ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีเหมือนกัน เท่ากันทั่วโลก เราไม่กลัว แต่ถ้าขึ้นเจาะจงเฉพาะประเทศไทย เราก็จำเป็นต้องทำงานร่วมกันให้หนักขึ้น"
อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ มีแผนรับมือกับมาตรการภาษีสหรัฐฯ โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายบริหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้า ส่วนการตั้งวอร์รูมรับมือสงครามการค้า ก็มีการจัดตั้งแล้วเช่นกัน โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ในส่วนของกรมฯ ได้มีการเชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มาช่วยวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ร่วมกัน
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี