นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงขานรับนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ดำเนินการโครงการสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ กรมทางหลวง โดยสำนักสำรวจและออกแบบ ได้เร่งดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่เชื่อม ต.ม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ - จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก ที่จะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุน ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว
ทั้งนี้จุดผ่านแดนถาวรภูดู่เป็นด่านการค้าชายแดนถาวร สังกัดด่านศุลกากรทุ่งช้าง นับเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว แห่งที่ 3 ของประเทศไทย ที่เชื่อมต่อกับแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 บ้านม่วงเจ็ดต้น ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ โดยประชาชนใช้ถนนบ้านม่วงเจ็ดต้น -ด่านภูดู่ เป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทาง
ปัจจุบันสภาพถนนเดิมมีขนาด 2 ช่องทางจราจร (ไป - กลับ) มีไหล่ทางแคบ แนวถนนคดโค้งและลาดชัน ทำให้ผู้ใช้ทางไม่ได้รับความสะดวกและปลอดภัย อีกทั้งแนวเส้นทางบางช่วงตัดผ่านพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด และอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มมากขึ้นจากการขนส่งสินค้าได้ กรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญอันเป็นผลประโยชน์ต่อประชาชน จึงได้ดำเนินโครงการทางหลวงแนวใหม่ โดยการออกแบบแนวเส้นทางเน้นความเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ ศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างละเอียด มีจุดเริ่มต้นโครงการบนทางหลวงหมายเลข 117 สายนครสวรรค์ - ม่วงเจ็ดต้น กม.ที่ 396+340 ตัดผ่านพื้นที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าอุตรดิตถ์ที่ 8 ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 1268 ผ่านพื้นที่เกษตรกรรม ตัดผ่านพื้นที่เนินเขาและช่องเขา และสิ้นสุดที่จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ (บริเวณด่านภูดู่ - เขตชายแดน สปป.ลาว) รวมระยะทางประมาณ 5.345 กิโลเมตร มีรูปแบบโครงการก่อสร้างเป็นทางหลวง ขนาด 4 ช่องจราจร (ไป - กลับ) ช่องจราจรกว้าง 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร ผิวทางคอนกรีต ก่อสร้างทางแยกต่างระดับ (Flyover) และสะพานโค้ง (Arch Bridge) บนทางหลวงหมายเลข 1268 สายเหมืองแพร่ - ปางไฮ พร้อมการจัดภูมิสถาปัตยกรรมเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดอุตรดิตถ์
สำหรับความก้าวหน้าของโครงการในปัจจุบัน กรมทางหลวงได้รับอนุญาตเข้าศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการจากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า และดำเนินการเก็บตัวอย่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด และพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ ภูสอยดาว ตามแนวเส้นทางโครงการ จากนั้นจะจัดทำร่างมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อเผยแพร่ข้อมูลก่อนการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่โครงการต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางหลวง อำนวยความสะดวกในการเดินทางและเพิ่มศักยภาพการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน คาดว่าจะดำเนินการเสนองบประมาณได้ในปี 2572 และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2575
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี