นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/2568 โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรพร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโดยมีเป้าหมายการเติบโตของรายได้ทั้งปี 2568ไม่น้อยกว่า 15% โดยบริษัทได้ดำเนินงานตามกลยุทธ์สำคัญทั้งหมด 5 ประการ ได้แก่ประการที่ 1 “Green Logistics Services”หรือการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานที่ใช้เทคโนโลยีและลดการใช้พลังงานในขั้นตอนการขนส่ง ทั้งการบริหารงานภายในบริษัทและบริษัทในเครือรวมไปถึงซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจ ประการที่ 2 บริษัทให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงานและการให้บริการลูกค้า ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัท

ประการที่ 3 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้ข้อมูลในการบริหารงานและพัฒนาประสิทธิภาพร่วมกัน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าบริษัทข้ามชาติ หรือ Multinational Company (MNCs) ในประเทศที่มีศักยภาพด้านความต้องการขนส่ง อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สิงคโปร์ และประเทศไทย ประการที่ 4 ขยายไปยังตลาดที่เติบโตสูงเช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากความต้องการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประการที่ 5 พัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

“สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นการทำตลาดในภูมิภาคตะวันออกของทวีปเอเชีย และสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะมีความผันผวนในด้านภูมิรัฐศาสตร์แต่เนื่องจากการเป็นประเทศขนาดใหญ่ และ มีความต้องการขนส่งอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีกับกลุ่มผู้ให้บริการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย WICE คาดว่าจะสามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 27%” นายชูเดช กล่าว

ในขณะที่ ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีรายได้ 4,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท ลดลง 40.5% จากปีก่อน จากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้บริษัทมีการขาดทุนในช่วงไตรมาส 4/2567 ประกอบการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายในการให้กู้ยืมเงินของบริษัทเอ็น-สแควร์ อี-คอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจบ (One-TimeExpenses) อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากการปรับโครงสร้างภายในบริษัทย่อย รวมถึงการเตรียมแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การผันผวนของค่าเงินบาท