นางสาวอรสา ขาวงาม กรรมการบริหาร บริษัท โอ เอส ดี จำกัด หรือ OSD ผู้ให้บริการทางด้านสารสนเทศ เทคโนโลยีการสื่อสาร (ICT) และโซลูชันแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการดูแลจัดการระบบไอทีขององค์กรทั้งองค์กรธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากว่า 20 ปี ด้วยโซลูชันครอบคลุมตั้งแต่การบริหารคอลเซ็นเตอร์ การบริหารประสบการณ์ลูกค้า การบริหารการติดตามหนี้ การบริหารงานบริการ และโซลูชันสมาร์ตซิตี

ทั้งนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภท 1 และประเภท 3 รวมถึงใบอนุญาตผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ประเภท 1 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการพัฒนาระบบและให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า โดยเฉพาะใบอนุญาตประเภท 3 เป็นแบบมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง สามารถให้บริการภายใต้โครงข่ายของบริษัท และเชื่อมต่อกับโครงข่ายของผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการภายใต้การให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในรูปแบบของโครงข่าย SIP ที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูง เพื่อช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่ที่มีการใช้งานและต้องการความปลอดภัยสูงสามารถใช้งานบนโครงข่าย SIP ได้อย่างมั่นใจ

โดยในปี 2568 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตเนื่อง จากการเห็นความต้องการบริการด้าน IT จากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ คาดการณ์รายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 50% จากปี 2567 ที่ผ่านมา พร้อมวางโรดแมปในการขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของบริษัท ด้วยการพัฒนาบริการและโซลูชันใหม่ๆจาก 3 แนวทาง คือ

1.พัฒนาบริการผ่านบริษัทในกลุ่ม OSD อาทิ ATOM (AI Vision & IoT Smart Platform) แพลตฟอร์ม AI สำหรับ Vision และ IoT ดีไวซ์ ซึ่งพัฒนาโดย บริษัท เอ ดอท จำกัด เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ในกลุ่ม OSD ระบบ VoP (Voice of People) หรือระบบรับฟังเสียงประชาชน ที่พัฒนาโดย บริษัท เลกซ์เทค คอนซัลแทนท์ จำกัด หรือ LEXTECH บริษัทในกลุ่ม OSD

2.จับมือกับพันธมิตร เช่น AWS, Zoom, Huawei, Sunline และ Nice เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบความต้องการต่างๆให้กับองค์กร อาทิ นำแพลตฟอร์มที่บริษัทมีอยู่อย่าง VOC ขึ้น Marketplace ของ AWS

3.ทำงานร่วมกับลูกค้า เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์เฉพาะแต่ละองค์กร เช่น ทำงานร่วมกับธนาคารออมสิน ในการพัฒนาระบบ DCMS หรือระบบบริหารหนี้ครบวงจร และต่อยอดฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI มาใช้ในระบบตามความต้องการของธุรกิจ

โดยนอกจากบริการให้กับองค์กรธุรกิจเอกชนแล้ว บริษัทยังมุ่งให้บริการ IT โซลูชันกับหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ขานรับกับนโยบายขับเคลื่อนเมืองสู่สมาร์ตซิตี (Smart City) ไม่ว่าจะเป็น ATOM แพลตฟอร์ม AI สำหรับการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ด้วย Model AI สู่ระบบออโตเมชัน มีฟีเจอร์ในการหาวัตถุแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า การจำแนกบริเวณที่สนใจ การยืนยันพาหนะและผู้ขับขี่ การติดตามวัตถุหรือบุคคล และการอ่านป้ายทะเบียนรถ

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบ VoP (Voice of People) หรือระบบรับฟังเสียงประชาชน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถรวบรวม วิเคราะห์ และตอบสนองต่อความคิดเห็นของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาได้นำระบบดังกล่าวไปทำงานร่วมกับเทศบาลนครนครปฐม เทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลนครยะลา เพื่อยกระดับการบริหารจัดการเมืองให้โปร่งใส รวดเร็ว และเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนและเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงให้ความสำคัญด้านดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันร่วมกับพันธมิตรและลูกค้า ด้วยความเชื่อว่าบริบทต่างๆของโลก ธุรกิจยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว การทรานสฟอร์มขององค์กรในทุกภาคส่วนยังเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งบริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้าน IT ของไทย ให้เกิดแรงผลักดันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโซลูชันที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ และนำธุรกิจ IT ไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมในการนำบางโซลูชัน อย่าง Smart City เพื่อส่งออกไปสู่ต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

นางสาวอรสา กล่าวว่า เพื่ออัปเดตข้อมูลความรู้ เทรนด์เทคโนโลยีด้าน IT และโซลูชันใหม่ๆที่สำคัญ พร้อมรับฟังมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ จากผู้นำองค์กรระดับโลกและองค์กรชั้นนำในประเทศ อาทิ นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย หรือ AWS, นายรังสิต งามพรประเสริฐ ที่ปรึกษาด้าน UCaaS, ซูม คอมมูนิเคชันส์ หรือ Zoom, นายปริญญา แพทยานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำประเทศไทยและเวียดนาม บริษัท ไนซ์ จำกัด, นายสุธี ศรีวรเพชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันไลน์ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด

ทั้งนี้ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงขอเชิญร่วมงาน “OSD E-Connect 2025” ในวันที่ 20 มีนาคม 2568  เวลา 8.00 - 17.00 น. ณ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ ถนนวิทยุ โดยงานในปี 2568 นี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “AI-Driven: Digital Transformation, to the new era.” นับเป็นเวทีสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องการอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด พร้อมสัมผัสและทดลองใช้เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆขององค์กร พร้อมพบกับนวัตกรรมล้ำสมัย การบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้า และการสาธิตโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเสริมขีดความสามารถของธุรกิจและเมืองอัจฉริยะ องค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานฟรีได้ที่ https://econnect.osd.co.th/activity-agenda/activity-step/econnect-2025

-033