“ดีแคทลอน” แบรนด์กีฬาระดับโลกจากฝรั่งเศส หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาที่หลากหลายที่สุดในโลก เดินหน้าเต็มสูบด้วยกลยุทธ์ Location Strategy ปักหมุดพัทยา- ชลบุรี อวดโฉม Experience Store สาขาแรกในภาคตะวันออก มุ่งมั่นสร้างแลนด์มาร์กของคนรักกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งครบทุกไลฟ์สไตล์ ชูจุดแข็งมอบประสบการณ์ทางกีฬาที่เหมาะกับทุกความต้องการ ควบคู่การส่งต่อแรงบันดาลใจจากทีมเมทนักกีฬาระดับประเทศที่มี Passion ด้านกีฬาอย่างแท้จริง พร้อมรับกระแสการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ จ.ชลบุรี ในเดือนธันวาคม ตั้งเป้าเติบโต Double Digit ภายในสิ้นปี 2568
นายดีเรน เชตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแคทลอน ประเทศไทย เปิดเผยว่า ดีแคทลอน พัทยา เป็น Experience Store สาขาแรกในภาคตะวันออก มีขนาดใหญ่ถึง 3,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณแยกเทพประสิทธ์ ถนนสุขุมวิท ครบไปด้วยอุปกรณ์กีฬา, พื้นที่เพลย์กราวด์ หรือสนามกีฬาฟรีสำหรับสมาชิก ในรูปแบบ Multi-sport และทีมเมทหรือพนักงานดีแคทลอน ผู้เชี่ยวชาญและรักกีฬา โดยบริษัทเชื่อมั่นในศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของคนรักกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกีฬาและกิจกรรมทางน้ำ
ทั้งนี้ด้วยความพร้อมของพัทยาที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคตะวันออก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นฮับการลงทุนอุตสาหกรรม ทำให้พัทยาเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง ที่ดีแคทลอนตั้งใจเป็นอย่างมากในการปั้นสโตร์พัทยาให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกกำลังกาย กีฬา และกิจกรรมกลางแจ้ง ของกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มคนท้องถิ่นที่รักกีฬา,กลุ่มนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมกีฬาต่างๆ ไปจนถึงกลุ่ม Expatriate หรือชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก นอกจากนี้ปัจจัยที่ส่งเสริมให้พัทยาเป็นทำเลศักยภาพทางด้านกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬา คือ ความแข็งแกร่งของภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีการวางแผนบูรณาการและส่งเสริมให้พัทยาก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนทั่วโลก
“ดีแคทลอน ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมให้พัทยาเป็น Sport Destination หรือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของคนรักกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งอย่างแท้จริง รวมถึงเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลก โดยความร่วมมือระหว่างดีแคทลอนกับภาครัฐและภาคเอกชน ครอบคลุมตั้งแต่การสนับสนุนให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม Expat หรือชาวต่างชาติที่ทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่แข็งแรงของดีแคทลอน เดินทางมาพัทยาเพื่อเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น , การแลกเปลี่ยนให้ความรู้ข้อมูลด้านการกีฬา ผลักดันและส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ตลอดจนร่วมสนับสนุนนักกีฬาในเครือของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 1 (กกท.ภาค 1) ทั้ง 13 จังหวัด เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในระดับประเทศและระดับนานาชาติในอนาคต ทั้งนี้นักกีฬาที่อยู่ในการดูแลของ กกท.ภาค 1 สามารถเข้ามาใช้สนามกีฬาหรือเพลย์กราวน์ของดีแคทลอนพัทยาได้ฟรี”นายดีเรน กล่าว
นอกจากนี้ดีแคทลอนยังให้การสนับสนุนในการวางแผนร่วมมือเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬา รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมกับผู้เล่นกีฬาในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่จังหวัดชลบุรีจะเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดมหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 นี้ ดีแคทลอนก็พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์อย่างเต็มที่
นายดีเรน กล่าวว่า จากกลยุทธ์ Location Strategy ที่มุ่งเปิดสาขาในทำเลศักยภาพ เจาะไปยังพื้นที่สำคัญครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย ปัจจุบัน ดีแคทลอนมีทั้งหมด 27 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 21 สาขา ภาคเหนือ 3 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 สาขา ภาคใต้ 1 สาขา และล่าสุดภาคตะวันออกที่พัทยา 1 สาขา และอีกกลยุทธ์ที่ดีแคทลอนมุ่งมั่นตลอดมาคือ การให้ความสำคัญกับพนักงานหรือทีมเมท โดยทีมเมทของดีแคทลอนล้วนเป็นผู้ที่มี Passion หรือมีใจรักในการเล่นกีฬา และมีความเชี่ยวชาญในด้านกีฬา พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจและสามารถแนะนำอุปกรณ์กีฬา ไปจนถึงเทคนิคการเล่นกีฬาได้อย่างมืออาชีพ โดยทีมเมทของดีแคทลอนมีตั้งแต่ผู้ที่มีความเข้าใจในกีฬาและอุปกรณ์กีฬาทุกประเภท ไปจนถึงนักกีฬา Expert-lete ที่เป็นนักกีฬาระดับประเทศ หรือนักกีฬาตัวแทนจังหวัด ผู้ผ่านประสบการณ์ในการแข่งขันระดับมืออาชีพมาหลายสนาม ทีมเมทเหล่านี้พร้อมจะถ่ายทอดประสบการณ์, คุณค่า รวมไปถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆให้กับลูกค้า
“เราต้องการนำเสนอว่ากีฬาเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย และเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของทุกคน เพราะเราเชื่อว่าประสบการณ์ในด้านการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องมาควบคู่ไปกับ Passion ดังนั้นเราจึงมีทีมเมทผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้เป็นเพียงพนักงานขาย แต่เป็นกลุ่มคนที่สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจ แชร์ประสบการณ์ด้านกีฬา และมีความรู้ในเรื่องกีฬาที่แท้จริงคอยให้ข้อมูลกับลูกค้า เราเชื่อว่าด้วยคุณค่านี้ จะทำให้ดีแคทลอนเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”นายดีเรน กล่าว
นอกจากนี้ดีแคทลอนยังให้ความสำคัญกับ Customer Journey โดยเชื่อมโยงประสบการณ์ลูกค้า ด้วยกลยุทธ์ OMNI Channel จากออฟไลน์สู่ออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง Decathlon Sport Advice หรือบทความออนไลน์ที่รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬาต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน มาเป็นตัวช่วยในการสื่อสารการตลาด รวมไปถึงการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ แนะนำการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างมืออาชีพ
โดยคอมมูนิตี้ของคนรักกีฬาหลากหลายประเภทเกิดขึ้นในโลกออนไลน์จำนวนมาก เป็นการรวมกลุ่มคนที่มี Passion หรือความรักในกีฬาที่เหมือนๆกัน มารวมตัวเพื่อทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการออกกำลังกาย ส่งผลให้เทรนด์การเล่นกีฬาประเภทใหม่ๆเกิดและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากกิจกรรมหรือกีฬาพื้นฐานอย่าง วิ่ง ฟิตเนส แบดมินตัน เทนนิส ตั้งแคมป์ เดินป่า และกีฬาทางน้ำต่างๆแล้ว ยังมีกีฬาชนิดใหม่จากต่างประเทศเกิดขึ้นในประเทศไทยและกำลังได้รับความนิยมต่อเนื่อง เช่น ปาเดล (Padel) ที่เป็นที่นิยมในยุโรป และพิกเคิลบอล (Pickleball) ที่คล้ายเทนนิส แต่เล่นง่ายกว่า เป็นต้น รวมไปถึงกระแสการเล่นกีฬาและแฟชั่น Sportwear ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้ตลาดสินค้าและอุปกรณ์กีฬาในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในด้านจำนวนผู้เล่นกีฬา และดีมานด์สินค้า รวมถึงการบริการ จากกลุ่มผู้บริโภคที่หันมาสนใจการเล่นกีฬา และยอมลงทุนกับอุปกรณ์ที่ช่วยผลักดันด้านสุขภาพ บุคลิกภาพ แฟชั่น โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี