การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืน (Circular Economy) พร้อมมอบรางวัล I-EA-T Circular Economy ประจำปี 2567 ให้แก่สถานประกอบการต้นแบบที่นำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มีความมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตควบคู่กับความยั่งยืน และหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ กนอ.กำลังผลักดันคือ “การทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรระหว่างผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมและระหว่างนิคมอุตสาหกรรม แบบ Closed Loop” ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพยากรที่เหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ลดของเสีย และเพิ่มมูลค่าให้กับกระบวนการผลิต เพื่อให้การปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับรางวัล I-EA-T Circular Economy Award นี้ไม่เพียงเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จของสถานประกอบการ ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการพัฒนาและก้าวไปสู่การประกวดในระดับประเทศต่อไป รวมทั้งเป็นการผลักดัน ให้สถานประกอบการอื่น ๆ เห็นถึง ความสำเร็จที่เป็นไปได้ และมีแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้จริง

“การสัมมนาครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจากองค์กรต้นแบบ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง นอกจากการถอดบทเรียนด้าน Circular Economy ที่สำเร็จ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมจะได้รับประโยชน์จากการอภิปรายและการเสวนา โอกาสนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัล I-EA-T Circular Economy ประจำปี 2567 รวมถึงทุกบริษัทที่เข้าร่วมการประกวด ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อันเป็นหัวใจสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” นายสุเมธ กล่าว

ทั้งนี้โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืน (Circular Economy) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในองค์กร ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ลดปริมาณการฝังกลบ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว โดยมีการจัดการประกวดสถานประกอบการที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งมีสถานประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 27 ราย แบ่งเป็นประเภท คือ 1. Circular Economy Product สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบและผลิตตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และใช้งานได้จริงในตลาด และ 2.ประเภท Circular Economy Prototype สำหรับต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา

ภายในงานมีการเสวนาหัวข้อ “Circular Economy and Sustainability : ถอดรหัสความสำเร็จองค์กรต้นแบบสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน” โดยมีตัวแทนจากองค์กรที่ได้รับรางวัลมาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ อาทิ

-บริษัท ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัลชนะเลิศ Circular Economy Product จากผลงาน Aluminium Coil รุ่น Alloy 3104 – อะลูมิเนียมรีไซเคิลคุณภาพสูง นำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติ

-บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 Circular Economy Product จากผลงาน Acid Recovery Process (ARP) – เทคโนโลยีรีไซเคิลกรดไฮโดรคลอริก (HCI) ในอุตสาหกรรมเหล็ก

-บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 Circular Economy Product จากผลงาน Q Decorative Concrete Garden Block - แท่งคอนกรีตรีไซเคิลจากเศษวัสดุก่อสร้าง

-บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัลชมเชย Circular Economy Product จากผลงาน เครื่องดื่มบรรจุขวด PET - จากวัสดุพลาสติกรีไซเคิล 100%

-บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลชมเชย Circular Economy Prototype จากผลงาน แผ่นยางจิ๊กซอว์ปูพื้นกันกระแทกจากเศษยางพาราเหลือใช้จากกระบวนการผลิตถุงยางอนามัย

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในหัวข้อ “ความรับผิดชอบของผู้ประกอบการตามกฎหมายกากอุตสาหกรรม”โดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และหัวข้อมาตรฐาน ISO ในเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อส่งเสริมแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

-031