นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันชะลอตัวต่อเนื่องและยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับจากการหารือกับทั้งผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) จึงเห็นควรให้ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เกณฑ์ LTV) โดยประเมินว่าการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV จะช่วยประคับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยบรรเทาปัญหาอุปทานคงค้างที่อยู่ในระดับสูงได้บ้าง จึงอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้จำกัดขณะที่การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินมากนัก เนื่องจากในปัจจุบันภาวะการเงินตึงตัวและสถาบันการเงินระมัดระวังในการให้สินเชื่อ
ทั้งนี้คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกณฑ์ LTV ของไทยผ่อนคลายมากอยู่แล้วเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และการบังคับใช้เกณฑ์ LTV ยังมีความสำคัญเพื่อดูแลมาตรฐานการให้สินเชื่อของระบบสถาบันการเงิน ช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้กู้จะได้รับสินเชื่อที่ไม่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่จะมาจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์
สาระสำคัญของการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV มีดังนี้ 1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี (1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาทตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และ (2) มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป
2. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯครั้งที่ 47 ว่า อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงและเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดไม่เพียงเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นตัวเร่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นตลาดโดยรวม
ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต รองเลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 กล่าวว่าการที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะที่ดีในการฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับการลดดอกเบี้ยที่เพิ่งเกิดขึ้น ยิ่งเป็นตัวเร่งสำคัญให้กำลังซื้อกลับมา ผู้บริโภคจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด ทั้งจากผู้พัฒนาโครงการและจากสถาบันการเงิน ทำให้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 ในปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดตามเป้าที่ตั้งไว้ 4,000 ล้านบาท
สำหรับครั้งนี้ผู้จัดงานชูเทรนด์แนวคิด “Sustainable Living For BetterLife” เพื่อคุณ เพื่อโลก เพื่อความยั่งยืน ภายในงานรวบรวมโครงการบ้านและคอนโดจากทั่วประเทศกว่า 1,000 โครงการที่รองรับทุกดีมานด์ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำ เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย รวมถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำ ที่ร่วมกันจัดแพ็กเกจสินเชื่อพิเศษและอัตราดอกเบี้ยต่ำเฉพาะในงานระหว่างวันที่ 20 – 23 มีนาคม 2568 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี