นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอาคารชุดในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ และ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวว่า จากผลการสำรวจแบบสุ่มโดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 183 คน เป็นเพศหญิงคิดเป็นสัดส่วน 58% ในขณะที่ 35% เป็นเพศชาย และ 7% เป็นกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีอายุระหว่าง 29 - 44 ปี คิดเป็นสัดส่วน 58% มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 25,000 - 75,000 บาทต่อเดือน และ 18%มีรายได้เกินกว่า 75,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ พบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามสนใจซื้ออาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ ที่ระดับราคา 3 - 5 ล้านบาทต่อหน่วย โดยผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มนี้ที่สนใจซื้อห้องชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้ เป็นกลุ่มคนโสดคิดเป็นสัดส่วน 67% ของกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
ขณะที่ทำเลที่ได้รับความสนใจ 3 อันดับแรกได้แก่ 1. โซนรัชโยธิน – จตุจักร - บางซื่อ งบประมาณ 2 - 4 ล้านบาทต่อห้อง 2. โซนรัชดา - พระราม 9 - เพชรบุรีตัดใหม่ งบประมาณ 1 - 3 ล้านบาทต่อห้อง 3. โซนพระโขนง – อ่อนนุช - บางจาก งบประมาณ 1 - 3 ล้านบาทต่อห้อง เนื่องจากทำเลดังกล่าวอยู่ใกล้กับแหล่งงาน และ เดินทางสะดวก ประกอบกับพื้นที่โดยรอบทำเลดังกล่าว มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ทั้งโรงพยาบาลสัตว์, ร้านรับอาบน้ำ - ตัดขนสัตว์เลี้ยง, โรงแรมสำหรับฝากสัตว์เลี้ยง, และ ดูแลทำความสะอาดห้องชุด ซึ่งผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ซื้ออาคารชุดที่เปลี่ยนแปลงไป ตามผลการสำรวจของ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2566 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,146 คน ที่พบว่า 49% ของคน “Gen Y” ที่มีอายุระหว่าง 24 - 41 ปีนิยม “เลี้ยงสัตว์เลี้ยง” เสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ภายใต้แนวคิด “Pawrents” หรือ พ่อ - แม่สัตว์เลี้ยง และกลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้จึงมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้จากผลสำรวจพบว่า อาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ สามารถปล่อยเช่าได้ในระดับราคาที่สูงกว่าห้องชุดปกติ ประมาณ 10 - 15% ในทำเล และในห้องที่มีขนาดเท่ากัน เพื่อรองรับกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการดูแลอาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อ
อาคารชุดเพื่อการลงทุนด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง
“ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ลดลงตามภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันผู้ประกอบการจำเป็นต้องพัฒนาโครงการที่แตกต่างจากคู่แข่ง และมีความ Wow เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของตลาด จากผลสำรวจของเราพบว่า คนที่ซื้อคอนโดมิเนียมที่เลี้ยงสัตว์ได้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง รวมถึงสามารถตอบสนองกับตลาดเพื่อการลงทุนไปด้วยในตัว และจากพฤติกรรมของผู้ซื้อดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะประเภทอาคารชุดพักอาศัย ในการพัฒนาอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี