นายทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล สอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง บริษัทเตรียมลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำอัดลมที่โรงงานในจังหวัดสระบุรีเพิ่มขึ้น 50% รองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.2% ต่อปี สูงกว่าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ถึง 2 เท่า และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมได้ทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล

อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและการจัดเก็บภาษีความหวานเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 เมษายนนี้ แต่ได้เตรียมพร้อมด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดชา กาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มให้พลังงานเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

ทั้งนี้ตลาดน้ำอัดลมยังคงมีโอกาสเติบโต แม้ว่าปัจจุบันจะมีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำดำที่ปีที่แล้วเติบโต 4-5% แม้ว่าต้นปีนี้ยอดขายเติบโตช้ากว่าปีที่แล้วเนื่องจากสภาพอากาศเย็น แต่คาดว่าช่วงหน้าร้อนที่จะถึงนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสัดส่วนการขายถึง 35% ของทั้งปี บริษัทได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านการผลิตและสินค้าใหม่ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว 8 รายการ รวมถึง เป๊ปซี่ บ๊วย, มิรินด้า บลูเบอรี่ ออเรนจ์, เซเว่นอัพ เลมอนโซดา สับปะรดพีช และสตรอว์เบอรี่ เลมอน พร้อมเสริมกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงฤดูร้อน โดยปัจจุบัน เป๊ปซี่มีส่วนแบ่งตลาดที่ 39.1% และตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 40% ในปีนี้ พร้อมวางแผนเติบโตให้สูงกว่าตลาด 2 เท่า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทยน

นายทานุจ กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จะเดินหน้าขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Accelerate portfolio transformation) เสริมความแข็งแกร่งด้านการขายและซัพพลายเชน (Sharp Commercial and Supply Chain Capacity) เพิ่มขีดความสามารถการผลิต และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รสชาติดี และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าของเรา ที่สำคัญ มุ่งส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยความสามารถของบุคลากรอย่างแท้จริง (Build our performance-driven culture and talent) พร้อมสานต่อกลยุทธ์ ‘Must Win’ เพื่อก้าวสู่การเป็น ‘บริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง’ (the Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity)

- 030