นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลก ว่า มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอุปสงค์การเดินทางทางอากาศเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก และแนวโน้มนี้ก็สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัท
โดยเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทคาดการณ์จำนวนเที่ยวบิน 48,077 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 82% ขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยประมาณ 4,200 บาทต่อที่นั่ง
ทั้งนี้แนวโน้มการเดินทางในปี 2568 นี้ เส้นทางสมุย ยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน 2568 เพิ่มขึ้น 14% บริษัทวางแผนกลับมาให้บริการเส้นทาง สมุย-กัวลาลัมเปอร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ในไตรมาส 4 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารจากยุโรปที่เดินทางผ่านทางสนามบินกัวลาลัมเปอร์
ปัจจุบันบริษัทให้บริการเที่ยวบินสู่ 19 จุดหมายปลายทาง ประกอบด้วยภายในประเทศ 11 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา และจุดหมายปลายทางต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน ปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวมทั้งสิ้นจำนวน 30 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบินทั่วโลก
ด้านบริหารจัดการฝูงบินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปี 2568 นี้ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25 ลำ และมีแผนจะปรับฝูงบิน (Re-fleet) เครื่องบินรุ่น ATR72-600 รวมทั้งสิ้น 12 ลำ โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบระหว่างปี 2569-2571
ส่วนการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสนามบิน บริษัท มีแผนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 ส่วนสนามบินตราดมีแผนขยายรันเวย์ เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินแบบไอพ่นได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ
สำหรับแผนการลงทุนโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภานั้น ล่าสุด บริษัท และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้เพื่อตอกย้ำศักยภาพสายการบินชั้นนำระดับภูมิภาค บริษัทเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ "AAPA Assembly of President 2025" ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 14 -15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้นำระดับสูงของสายการบินสมาชิกกว่า 250 ท่าน จาก 18 สายการบิน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรกำกับดูแลระดับโลกอย่าง ICAO และ IATA หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำ และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก เข้าร่วมงาน ซึ่งการประชุมนี้นับเป็นเวทียุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า นโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัท ในปี 2568 ที่ยังคงยึดหลักแนวคิด ESG ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบใน 3 ด้าน
1.ด้านสิ่งแวดล้อม ได้สานต่อโครงการ Low Carbon Skies by Bangkok Airways มุ่งเน้นลดการปล่อยคาร์บอน สอดรับพันธกิจภาคการบินโลกสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission 2050 การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุดเข้าร่วมโครงการมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science Based Target เพื่อสร้าง Roadmap ที่ชัดเจน
2.ด้านสังคม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ การดูแลสิทธิมนุษยชน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
3.ด้านธรรมาภิบาล ยังคงเน้นความโปร่งใส การปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) ความพึงพอใจของลูกค้า และการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการยกระดับคะแนนประเมินความยั่งยืน FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณานำมาใช้ โดยมีกำหนดเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2569
นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินการด้านการเงินของปี 2567 ว่า บริษัท มีรายได้รวม 26,041 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวม 20,638 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 3,798 ล้านบาท
ด้านผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท ในปี 2567 เป็นจำนวน 5,454 ล้านบาท อัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) อยู่ที่ 28% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทในปี 2567 ที่ 2.53 เท่า
นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ด้านแผนการขายในปี 2568 นี้ บริษัท มุ่งเน้นตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายและรายได้
โดยคาดการณ์ส่วนแบ่งช่องทางการขายบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์เป็นสัดส่วน 28% และช่องทางอื่น 72% (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) โดยเป็นการขายผ่านช่องทางเชื่อมต่อตรงผ่านระบบ 32% ตลาดภายในประเทศ 18% และตลาดต่างประเทศ 50% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังมีความต้องการสูงและยังคงแข็งแกร่ง โดยวางแผนการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศกลุ่มใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประเทศในแถบละตินอเมริกา และตุรกี โดยปัจจุบันบริษัท มีสำนักงาน GSA รวมทั้งสิ้น 26 แห่งทั่วโลก
สำหรับกลยุทธ์การขายมี 4 แนวทาง ได้แก่ การมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะการต่อยอดการขาย จากกระแสซีรีส์ "White Lotus Season 3" โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ตามรอยซีรีส์ เน้นกลุ่มประเทศ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ออสเตรเลีย นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นตลาดที่เติบโตสูง เช่น คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย ตลาดที่มีฟรีวีซ่า เช่น อินเดีย และจีน ขยายการเชื่อมต่อตรงผ่านระบบกลุ่ม API/NDC/Direct Connect ให้มากขึ้น เพราะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับสายการบินในยุคดิจิทัล ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ทั้งนี้เนื่องจากแนวโน้มปัจจุบันลูกค้านิยมซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Metasearch) และตัวแทนจำหน่ายตั๋วออนไลน์ (OTA) ช่วยให้สายการบินกระจายการขายตั๋วไปยังตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขายผ่านแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร ซึ่งเป็นการขายร่วม (Codeshare) บนบัตรโดยสารของสายการบินพันธมิตรผ่านช่องทางบนระบบแบบเชื่อมต่อตรง ช่วยขยายช่องทางการขาย และเพิ่มฐานลูกค้าแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร เริ่มจากสายการบินแควนตัสบนระบบ QDP และพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อขยายความร่วมมือต่อไป เช่น สายการบิน Thai Airways, British Airways, Lufthansa Group, Emirates, Etihad, Eva Air เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร
โดยพร้อมกันนี้บริษัทเตรียมปรับโฉมระบบสำรองที่นั่งออนไลน์ใหม่ เป็น RefX (Reference Experience) หรือ Digital Commerce พัฒนาโดย บริษัท อะมาดิอุส เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าถึงข้อมูลเที่ยวบิน ราคา และบริการเสริมได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับไฮไลท์กลยุทธ์สื่อสารการตลาดปี 2568 เปิดตัวภายใต้ธีม "Awesome Experience" มุ่งสร้างการเดินทางสู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่มีความหมายกับผู้โดยสารทุกกลุ่ม โดยเน้นการบริการที่พิเศษ สะดวกสบาย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด "ดีต่อใจ" โดยแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์” เริ่มเผยแพร่บนทุกช่องทางแล้ววันนี้
ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของปี 2568 นี้ ได้เตรียมจัด Pop-up Boutique Experience ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สมุย ตราด สุโขทัย และเชียงใหม่ โดยนำเสนอประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือประเพณีอันแท้จริงของชุมชนเอาไว้ อาทิ ในเดือนเมษายน สนามบินสุวรรณภูมิ จะให้บริการไอศกรีมที่รังสรรค์รสชาติจากจินตนาการ (Jin – Ta Icecream)
นอกจากนี้พลาดไม่ได้กับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา Bangkok Airways Boutique Series 2025 รายการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พบกับ 3 เส้นทางวิ่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (สมุย) ตราด สุโขทัย เสื้อวิ่งออกแบบโดยศิลปินอิสระ “Underhatdaddy” ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแต่ละจุดหมายปลายทาง และร่วมวิ่งไปกับ 3 ศิลปินชื่อดัง “ตู่ ภพธร” วันที่ 22 มิถุนายน ที่เกาะสมุย “โตโน่ ภาคิน” วันที่ 17 สิงหาคม ที่ตราด และ “เทศน์ ไมรอน” วันที่ 28 กันยายน ที่สุโขทัย
อีกหนึ่งกลยุทธ์แบรนด์เพื่อเข้าถึงใจลูกค้า และตอกย้ำภาพลักษณ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่สามารถครองใจผู้โดยสารทั่วโลก กับแชมป์ 8 ปีซ้อน Skytrax Award สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และสายการบินระดับภูมิภาคดีที่สุดในเอเชีย ล่าสุดจับมือกับ PUMA สปอร์ตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Be The First Move For Better Together” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการ
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี