นางสาวกุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยและทั่วโลกยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) พบว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยปี 2567 มีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 75,000 ล้านบาท หรือเติบโต 12.4% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะกลุ่มผู้เลี้ยงแมวที่มีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยกลุ่มคนเลี้ยงสุนัขมีอัตราการเติบโต 40.4% ขณะที่ตลาดแมว (แมวเก็ตติ้ง) เติบโต 37.1% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามในปี 2568 จากสถิติที่รวบรวมโดยอิมแพ็คฯ จากการจัดงาน “Thailand International Pet Variety Exhibition” พบว่าตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยตลาดคนเลี้ยงสุนัขเติบโต 31.6% ขณะที่ตลาดแมวเติบโตถึง 32.1% แซงหน้าตลาดสุนัขเป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมในการเลี้ยงแมวที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจกลายเป็นกลุ่มตลาดหลักของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไทยในอนาคต
โดยอิมแพ็คฯเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดแมวในไทย พบว่า ไทยมีประชากรผู้เลี้ยงแมวมากเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยจังหวัดที่มีการเลี้ยงแมวสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพฯ และสมุทรสงคราม ข้อมูลระบุว่า จำนวนประชากรแมวในไทยอยู่ที่ 3,337,458 ตัว สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเลี้ยงแมวอยู่ที่ 14,200 บาทต่อปี หรือประมาณ 1,183 บาทต่อเดือน และมีแนวโน้มการรับเลี้ยงแมวจรเพิ่มขึ้นกว่า 14% นับตั้งแต่ปี 2562 และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนตลาดแมวทั่วโลก Fortune เว็บไซต์วิเคราะห์ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ และการเงิน ได้เปิดเผยงานวิจัยเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า ตลาดแมวทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง แม้ว่าหลายคนในกลุ่มนี้จะยังไม่มีบ้านหรือครอบครัว แต่กลับให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก โดยพบว่า 74% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกลุ่มนี้เลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมว กลุ่ม Gen Z ในตลาดโลก ใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 72,624 บาทต่อปี หรือประมาณ 6,052 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็น ค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ค่าของเล่น ค่ากรูมมิ่ง และ ค่ารักษาพยาบาล เช่น พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ, ค่าฉีดวัคซีนประจำปี, ค่าวิตามิน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าของแมวจำนวนมากยินดีจ่ายเงินสูงถึง 10,200 บาท ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าผ่าตัด ค่ารักษาอาการบาดเจ็บกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนค่าเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ และการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ
นางสาวกุลวดี กล่าวต่อว่า ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดสัตว์เลี้ยง และความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค อิมแพคฯจึงจัดงาน “Thailand Cat Lovers Fair 2025” ขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 8 ซึ่งเป็นงานรวมพลคนรักแมวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ภายในงานรวบรวมสินค้าและบริการกว่า 300 รายการ จากกว่า 150 บูธ โดยตั้งเป้าสร้างแบรนด์ “งานแมวอิมแพ็ค” ให้เป็นที่จดจำของกลุ่มผู้รักแมว นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักแมว ตั้งแต่อาหาร ขนมเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ดูแลสัตว์เลี้ยง ของเล่น นวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับแมว ไปจนถึงบริการพิเศษ อาทิ อาบน้ำตัดขน ประกันสุขภาพแมว โรงแรมและที่อยู่อาศัยแบบ Pet-friendly ศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลสัตว์ รวมถึงบริการดูแลสุขภาพจิตและจิตแพทย์สำหรับแมว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในยุคปัจจุบัน และยังมีกิจกรรมเพื่อเหล่าทาสแมวอีกมากมาย
โดยคาดจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 คน พร้อมกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานตลอด 3 วัน มากกว่า 10 ล้านบาท โดยอ้างอิงจากสถิติของงาน “Thailand International Pet Variety Exhibition” ที่ผ่านมา ทั้งยังเป็นเวทีสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง เปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย (SME) ตลอดจนช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งงานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และความร่วมมือจากสมาคมผู้ชื่นชอบแมวแห่งประเทศไทย (CFA) สมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติ (TIMBA)
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี