นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลคงอยู่ทั่วประเทศที่มีหน้าที่ในการส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2566 จำนวน 835,011 ราย ซึ่งเป็น นิติบุคคลคงอยู่ที่สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและมีหน้าที่ในการส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2566 จำนวน 306,421 ราย พบว่า มีนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด) มีหน้าที่จัดทำบัญชีและนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามมาตรา 11 แห่ง พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ไม่นำส่งงบการเงิน จำนวน 41,535 ราย (คิดเป็นร้อยละ 13.55 ของนิติบุคคลคงอยู่ที่สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร) จึงได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองข้อมูลธุรกิจในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ออกหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยังนิติบุคคลดังกล่าว
โดยเมื่อนิติบุคคลได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำความผิดไม่ส่งงบการเงินฯ กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของนิติบุคคล มีสิทธิดำเนินการ 3 กรณี ดังต่อไปนี้ 1. กรณียอมรับข้อกล่าวหาและต้องการชำระค่าปรับเป็นพินัยเพื่อให้คดียุติ สามารถทำหนังสือรับสารภาพ โดยลงนามตามอำนาจและประทับตรา (ถ้ามี) และนำไปยื่นที่งานงบการเงินและข้อมูลธุรกิจ ชั้น 3 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ 2. กรณียอมรับข้อกล่าวหา แต่ไม่สะดวกในการทำหนังสือรับสารภาพ สามารถรอรับหนังสือคำสั่งปรับเป็นพินัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีหนังสือแจ้งจำนวนเงินที่ต้องชำระค่าปรับ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วันนับจากได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาฉบับแรกแล้ว เมื่อได้รับหนังสือคำสั่งปรับเป็นพินัย สามารถไปชำระค่าปรับได้ที่ งานงบการเงินและข้อมูลธุรกิจ ชั้น 3 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และ 3. กรณีต้องการชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหา ให้ทำหนังสือชี้แจงเหตุผลโดยลงนามตามอำนาจและประทับตรา (ถ้ามี) พร้อมแนบเอกสารประกอบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐพิจารณาว่าคำชี้แจงหรือคำแก้ข้อกล่าวหาประกอบข้อเท็จจริงฟังขึ้นหรือไม่ และหากเจ้าหน้าที่ของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่ากระทำความผิด เจ้าหน้าที่จะมีหนังสือแจ้งคำสั่งปรับเป็นพินัย สำหรับกรณีที่ไม่ได้ความว่ากระทำความผิด เจ้าหน้าที่จะสั่งยุติเรื่องและมีหนังสือแจ้งกลับไปยังนิติบุคคลอีกครั้ง ทั้งนี้ ทั้ง 3 กรณี สามารถมอบให้บุคคลอื่นมายื่นเอกสารแทนได้
ทั้งนี้ เมื่อนิติบุคคลได้รับหนังสือคำสั่งปรับเป็นพินัย และได้ชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วคดีจึงจะยุติ แต่หากได้รับหนังสือคำสั่งปรับเป็นพินัยแล้ว แต่ไม่ชำระค่าปรับ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 กรมฯ จะรวบรวมสรุปข้อเท็จจริงเพื่อส่งให้อัยการดำเนินการฟ้องศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอแจ้งว่าหากนิติบุคคลได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ไม่ต้องตกใจ แต่ให้ไปตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ว่านิติบุคคลของท่านได้จัดทำงบการเงินไว้แล้วหรือไม่ หากจัดทำไว้เรียบร้อยแล้วก็ให้รีบดำเนินการนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ซึ่งสามารถยื่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้หนังสือรับรองนิติบุคคลถูกหมายเหตุว่าไม่ได้ส่งงบการเงิน อันเป็นการรักษาความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจของท่าน อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้า และผู้สนใจที่จะร่วมทุนกับธุรกิจของท่านอีกด้วย
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี