ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)สรุปภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน จากภาคบริการที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว เนื่องจากจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงโดยเฉพาะหมวดเคมีภัณฑ์และปิโตรเลียม และการลงทุนภาคเอกชนลดลงหลังเร่งไปในช่วงก่อนหน้าอย่างไรก็ดี การส่งออกปรับเพิ่มขึ้นในหลายหมวดโดยเฉพาะหมวดยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโลหะมีค่า ด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นและการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งรายจ่ายประจำและลงทุนของรัฐบาลกลาง
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนตามหมวดพลังงานเป็นสำคัญ จากผลของฐานสูงและราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสำเร็จรูป เครื่องประกอบอาหาร และค่าโดยสารสาธารณะ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นจากดุลการค้าเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบริการ รายได้และเงินโอนเกินดุลลดลงตามรายรับภาคการท่องเที่ยว ด้านตลาดแรงงานโดยรวมปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน
แนวโน้มระยะต่อไปกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังขับเคลื่อนจากภาคท่องเที่ยวและบริการ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมในบางหมวดยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและการแข่งขันสูง รวมทั้งนโยบายการค้าที่มีความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ในระยะต่อไป ต้องติดตาม 1) ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว2) พัฒนาการของภาคการผลิต 3) ผลกระทบจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักและ 4) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินเศรษฐกิจว่าท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในช่วงไตรมาส 2-4 เศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ ท่ามกลางมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และปัญหาภายใน
โดยคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2025 ว่ามีความเสี่ยงสูงจากสงครามการค้า หากไทยถูกสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษี 25% อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ต่ำกว่า 2.4% ที่ประมาณการไว้ เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2025 คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับ 0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-กุมภาพันธ์ 2568) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 996,458 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการและช่วงเดียวกันของปีก่อนโดย 1) ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศ 2) การนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีก่อนของรัฐวิสาหกิจบางแห่งและ 3) การนำส่งเงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล สูงกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดี การคืนภาษีของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นรายการหัก สูงกว่าประมาณการ ประกอบกับภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีต่ำกว่าประมาณการ และผลกระทบจากมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ยังคงเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้ประเมินไว้ และในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2568 กระทรวงการคลังจะติดตามและบริหารการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาเสถียรภาพและความเข้มแข็งของฐานะการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี