กระทรวงคมนาคมก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2455 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศพระบรมราชโองการให้เปลี่ยนชื่อ “กระทรวงโยธาธิการ” เป็น “กระทรวงคมนาคม” จนปัจจุบันวันที่ 1 เมษายน 2567 ครบรอบ 113 ปี กระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าภารกิจเพื่อพัฒนาการคมนาคม จากพันธกิจในอดีต คือ การดูแลคมนาคมทางบก ทางน้ำ ทางราง และไปรษณีย์โทรเลข วิวัฒนาการสู่การพัฒนาการคมนาคมขนส่งของประเทศในทุกมิติทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้เกิดความปลอดภัย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ สร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงควบคู่กับการพัฒนาเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ เพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ยกระดับท่าเรือเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า รวมถึงพัฒนาสนามบินและเส้นทางการบินใหม่ เพื่อสร้างโอกาสและอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศผ่านการพัฒนาโครงการสำคัญด้านต่าง ๆ ดังนี้
การพัฒนาการขนส่งทางถนน อาทิ การแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ - ลำลูกกา) โครงการก่อสร้างทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ – ป่าตอง และโครงการก่อสร้างจุดพักรถคลองหลวงบนมอเตอร์เวย์สาย 9
การพัฒนาการขนส่งทางบก เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาระบบการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (Feeder) จัดหารถประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) และการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)
การพัฒนาการขนส่งระบบราง เร่งรัดพัฒนาโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศทั้งรถไฟทางคู่และเส้นทางใหม่ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนและลดต้นทุนโลจิสติกส์ เช่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง และระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง และขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดเส้นทาง
การพัฒนาการขนส่งทางน้ำ ขยายขีดความสามารถการขนส่งทางน้ำด้วยการเปิดประตูการค้าทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือ เช่น การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยา (Smart Pier) ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการปรับปรุงท่าเรือแล้วเสร็จ จำนวน 10 ท่า ได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า สะพานพุทธ นนทบุรี พายัพ บางโพ ท่าช้าง ท่าราชินี ท่าเตียน สาทร และพระราม 7
การพัฒนาการขนส่งทางอากาศ ขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ เพิ่มศักยภาพการขนส่งทางอากาศของประเทศให้สามารถรองรับผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว รวมทั้งสินค้าที่เพิ่มขึ้น เช่น ติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Border Control) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต จัดทำแนวทางการเพิ่ม Capacity ห้วงอากาศให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้ 2 ล้านเที่ยวบินต่อปี การพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่และภูเก็ต รวมถึงการขยายท่าอากาศยานชุมพร เป็นต้น
กระทรวงคมนาคมพร้อมพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคมนาคมขนส่งในทุกมิติรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกด้วยการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ การเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในระบบขนส่งสาธารณะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย”
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี