นายเจตน์ กาญจนกูล กรรมการบริหาร บริษัท ดับบลิว เฮ้าส์ จำกัด (W House) เปิดเผยว่า W House เป็นบริษัทรับสร้างบ้านหรูโมเดิร์นที่มีประสบการณ์กว่า 26 ปี สำหรับตลาดระดับราคาเฉลี่ย 30 ล้านบาทขึ้นไป มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์บ้านมาตรฐานที่มั่นคง แข็งแรง และ ทนทาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมี 3 มาตรการหลัก “ออกแบบบ้าน-คัดเลือกวัสดุ-กระบวนการก่อสร้าง” ที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีตามหลักมาตรฐานสากล และสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย

“บ้านทุกหลังที่สร้างโดย W House ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุดให้กับบ้านทุกหลัง ด้วยการออกแบบอาคารที่สามารถรองรับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาโครงสร้างให้สามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือนที่สูงเกินมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยสูงสุด” นายเจตน์ กล่าว

สำหรับแนวทางการสร้างบ้านของ W House นั้น นายเจตน์ กล่าว่า เน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่สร้างบ้าน ผ่าน 3 มาตรการหลัก ดังนี้ 1.เลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ TIS: Thai Industrial Standard) โดย W House ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อลูกค้ามั่นใจว่าโครงสร้างของบ้านมีคุณภาพสูงสุด และสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี

นอกจากนี้ บ้านทุกหลังและโครงสร้างที่แข็งแรงยังมาจากเสาเข็มคุณภาพสูงที่มีความแข็งแรงกว่ามาตรฐานทั่วไป เพื่อป้องกันการทรุดตัวของบ้านในระยะยาว พร้อมกันนี้ ยังเลือกใช้เหล็กเส้นมาตรฐาน มอก. ก่อสร้างให้กับบ้านทุกหลังซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างบ้าน และคอนกรีตเสริมแรงคุณภาพสูงที่มีค่ากำลังอัดสูง เพื่อให้บ้านมีความมั่นคงและสามารถรับน้ำหนักได้ดี

2.การออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยและการกันแรงสั่นสะเทือน โดยบ้านทุกหลังที่สร้างโดย W House ได้รับการออกแบบให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้โดยคำนวณการรับน้ำหนักตามเกณฑ์ที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป

ทั้งนี้เทคนิคของการออกแบบยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของตัวอาคารเพื่อให้บ้านมีความมั่นคง และปลอดภัยมากขึ้น โดยทุกโครงสร้างถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักได้มากกว่ามาตรฐานปกติ ขณะเดียวกันก็เสริมโครงสร้างพิเศษในจุดสำคัญของบ้าน เช่น การเสริมเหล็กที่ฐานราก การใช้โครงสร้างบันได และพื้นแบบพิเศษเพื่อลดแรงกระแทก เพื่อเพิ่มความมั่นใจในด้านความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว

3.กระบวนการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมทีม QC ตรวจสอบทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพ ความปลอดภัย และความคงทนของอาคาร

นายเจตน์ กล่าวว่า มาตรการควบคุมคุณภาพของ W House เกิดขึ้นในทุกขั้นตอน  ตั้งแต่การเตรียมงานฐานราก การเลือกใช้วัสดุ ไปจนถึงการตรวจสอบโครงสร้างหลังการก่อสร้าง ซึ่งในกระบวนการก่อสร้างได้ดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ เพื่อรับรองว่า “บ้านทุกหลัง” มีการควบคุมคุณภาพในทุกกระบวนการ จากทีม QC ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบงานโครงสร้างอย่างเข้มงวด พร้อมด้วยทีมตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) ที่เชี่ยวชาญในการตรวจสอบโครงสร้างและวัสดุ เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการของเราสร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุด

ทั้งนี้ในยุคที่ความปลอดภัยของบ้านกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว นายเจตน์ กล่าวย้ำ  W House เน้นมาตรฐานของการสร้างบ้านที่มั่นคง แข็งแรง และทนทาน ด้วยแนวทางการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผลงานการสร้างบ้านกว่า 500 หลัง ที่ร่วมพิสูจน์คุณภาพ

“บ้านทุกหลังของ W House ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นหลักฐานของคุณภาพและความแข็งแกร่งของตัวบ้าน ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากลูกค้าหลายรายที่สร้างบ้านกับเรามานาน และมีความพึงพอใจ กับบ้านที่สร้างมานานกว่า 20 ปี ยังคงแข็งแรง ปลอดภัย และไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้าง อย่างในเหตุการณ์โรงงานระเบิดบนถนนกิ่งแก้วที่ได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารและบ้านในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก แต่จากการสอบถามไปยังลูกค้าก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าบ้านที่สร้างโดย W House ทุกหลังยังคงแข็งแรงและไม่ได้รับความเสียหายเลย เช่นเดียวกับแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เราได้รับแจ้งพร้อมคำชมจากบ้านทุกหลังที่ส่งมอบแล้ว 15-25 ปีว่ายังคงแข็งแรงดีไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด” นายเจตน์ กล่าว

-031